Disable copy

Showing posts with label ภาษาไทย. Show all posts
Showing posts with label ภาษาไทย. Show all posts

Thursday, 24 June 2021

[PDF]แนว ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ รหัสวิชา 09 วิชา ภาษาไทย ธันวาคม 2558 ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จำนวน 50 ข้อ พร้อมเฉลย

ในการนี้ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของพี่ คิดว่าส่วนหนึ่งส่วนใดไม่เหมาะสมหรือ ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบในทางตรงและทางอ้อม และต้องการให้ลบหรือว่านำออกช่วยแจ้งให้ทางพี่ทราบได้เสมอนะครับ ด้วยความยินดีมากๆนะครับ

ข้อสอบ รหัสวิชา 09 ธันวาคม 2558 วิชา ภาษาไทย ของ สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)  (สทศ ) (NIETS) .pdf

 

ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ ภาษาไทย [PDF] ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ  รหัสวิชา 09 วิชา ภาษาไทย ธันวาคม 2558 ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จำนวน 50 ข้อ พร้อมเฉลย







ข้อสอบ สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) 

แบบทดสอบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจเนื้อหาวิชาภาษาไทย โดยจะนำผลที่ได้ไปใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบรับรอง ปีการศึกษา 2560 

รายละเอียดแบบทดสอบ จำนวน 50 ข้อ

วิธีการตอบ ให้ใช้ดินสอดำ 2B ระบายในวงกลมที่เป็นคำตอบในกระดาษคำตอบ 

เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1-50 ข้อละ 2 คะแนน

ข้อปฎิบัติในการสอบ

1. เขียน-ชื่อนามกสุล เลขที่นั่งสอบ สถานที่สอบ และห้องสอบ บนหน้าปกแบบทดสอบ

2. ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล เลขที่นั่งสอบ รหัสวิชาที่สอบ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในกระดาษคำตอบว่าตรงกับตัวผู้เข้าสอบหรือไม่ กรณีที่ไม่ตรงให้แจ้งผู้คุมสอบ เพื่อขอกระดาษคำตอบสำรอง แล้วกรอก / ระบายให้ถูกต้องสมบูรณ์

3. อ่านคำแนะนำวิธีการตอบข้อสอบให้เข้าใจ แล้วตอบข้อสอบด้วยตัวเอง และไม่เอื้อให้ผู้อื่นคัดลอกคำตอยได้

4. เมื่อสอบเสร็จ ให้สอดกระดาษคำตอบไว้ในแบบทดสอบ

5. ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบออกจากห้องสอบ ก่อนหมดเวลาสอบ

6. ไม่อนุญาตให้ผู้คุมสอบเปิดอ่านข้อสอบ

Wednesday, 3 June 2020

[PDF] ข้อสอบรับตรง โควตา มข. (ม.ขอนแก่น) วิชา 01 ภาษาไทย พ.ศ. 2554 พร้อมเฉลย

ในการนี้ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของพี่ คิดว่าส่วนหนึ่งส่วนใดไม่เหมาะสมหรือ ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบในทางตรงและทางอ้อม และต้องการให้ลบหรือว่านำออกช่วยแจ้งให้ทางพี่ทราบได้เสมอนะครับ ด้วยความยินดีมากๆนะครับ

เฉลยข้อสอบรับตรง โควตา มข (ม.ขอนแก่น) วิชา 01 ภาษาไทย พ.ศ. 2554 .pdf พร้อมเฉลย จำนวน 80 ข้อ


คำอธิบาย
1. ข้อสอบ 100 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
2. ก่อนตอบคำถาม ต้องเขียนชื่อ เลขที่นั่งสอบ สนามสอบและห้องสอบ ลงในกระดาษแผ่นนี้ และใน กระดาษคำตอบ พร้อมทั้งระบายรหัสที่นั่งสอบ รหัสวิชา และชุดข้อสอบให้ตรงกับชุดข้อสอบที่รับ
3. ในการตอบ ให้ใช้ดินสอดำเบอร์ 2B ระบายวงกลมตัวเลือก 1 2 3 หรือ 4 ในกระดาษคำตอบให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) ในแตละข้อมีคำตอบที่ถูกต้อง หรือเมาะสมที่สุดเพียงคำตอบเดียว ถ้าต้องการเปลี่ยนตัวเลือกใหม่ ต้องลบรอยระบายในวงกลมตัวเลือกเดิมให้สะอาดหมดรอยดำ เสียก่อน แล้วจึงระบายวงกลมตัวเลือกใหม่
4. ห้าม นำข้อสอบและกระดาษคำตอบออกจากห้องสอบ
5. ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าสอบออกจากห้องสอบก่อนเวลาสอบผ่านไป 1 ชั่วโมง 30 นาที




ถ้าผิดพลาดประการใดหรือไม่เหมาะสม รบกวนน้องๆ หรือผู้ที่สนใจคอมเมนต์ใต้ล่างนี้ได้เลยนะครับเพื่อจะได้นำไปปรับปรุงเนื้อหา และความเหมาะสมได้ในอนาคต

ขอความร่วมมือผู้ที่สนใจสามารถแชร์ไปให้เพื่อนๆ หรือไม่ก็ดาวน์โหลดไปฝึกฝนได้ด้วยตัวเอง ผมไม่ได้จัดทำเพื่อการค้าครับแต่ผมรบกวนอย่านำไปทำเพื่อการค้านะครับ

ถ้าชอบบทความนี้ฝากกดติดตาม ได้ทุกช่องทางด้านล่างนี้นะครับ

ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามเราได้ที่



Thursday, 21 May 2020

[PDF]แนวข้อสอบ กพ. ภาค ก. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 4 ของ สำนักงาน กพ. จำนวน 100 ข้อ พร้อมเฉลย

[PDF] แนวข้อสอบ ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 4 ของ สำนักงาน กพ. จำนวน 100 ข้อ พร้อมเฉลย




หลักเกณฑ์การสอบ แข่งขันเข้ารับราชการ ความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.)



การทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
     การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสารถหรือศักยภาพ ในการเรียนรู้ของบุคคลเพื่อให้ได้ผู้ปฏิบัติงานที่สามารถเรียนรู้หรือฝึกฝนการปฏิบัติงานในตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถพัฒนาให้ปฏิบัติงานในระดับตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปจึงไม่ใช่แค่การวัดความรู้ที่บุคคลได้เรียนรู้จากระบบการศึกษาโดยตรง แต่เป็นการวัดความสามารถหรือศัยภาพในการนำความรู้ต่างๆ มาผสมผสานและจัดระเบียบใหม่เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือใช้กับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่บุคคลไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งความสามารถในแต่ละบุคคลมีผลต่อการเรียนรู้งาน การคิดและการแก้ปัญหา เรียกอีกอย่างนึงว่า เป็นความสามารถในการพัฒนาหรือฝึกฝนได้ (Train Ability)
     การใช้แบบทดสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสำนักงาน ก.พ. มีเหตุผลดังนี้
     1) เพื่อวัดศักยภาพพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติงานทุกตำแหน่ง ซึ่งเป็นความสามารถในการเรียนรู้เพื่อการปฏิบัติงานให้สำเร็จ โดยแบบทดสอบได้รับการพัฒนา และสร้างขึ้นตามหลักวิชาอย่างรอบครอบเพื่อให้สามารถวัดผลได้เที่ยงตรง ในทุกโอกาสและสถานการณ์ (Reliable an Accurate )
     2) แบบทดสอบมีความเป็นปรนัย (Objective) ทั้งในการตรวจให้คะแนนหรือแปลความหมายของคะแนน
     3) การใช้แบบทดสอบยึดหลักเสมอภาพ (Equal Basic ) เป็นการเปรียบเทียบความสามารถ ของผู้รับการทดสอบอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้รับการทดสอบจะได้การประเมินด้วยเนื้อหา หรือสถานการณ์ อย่างเดียวกัน ข้อแตกต่างอันเนื่องมากจากภูมิหลังและประสบการณ์จะไม่มีผลต่อการประเมิน
     4) การใช้แบบสอบถามมีความเป็นธรรม (Fairer) เนื่องจากมีการสร้างอย่างรอบครอบ เหมาะ สำหรับการทดสอบกับผู้รับการทดสอบ ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด หรือสำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาใด
     5) การใช้แบบทดสอบให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการ (Cost-Effective) โดยสามารถ ดำเนินการได้สะดวก รวดเร็ว เหมาะสมสำหรับกลั่นกรองผู้สมัครจำนวนมากๆ ให้เหลือจำนวนที่เพียงพอ (Manageable Numbers) ที่จำดำเนินการคัดเลือกในขั้นต่อไป

1. วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน )
     1) ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ ทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ควาามคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เบื่องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ การแก้ปัญหาเชิงปริมาณ และข้อมูลต่างๆ
     2) ความสามารถทางด้านเหตุผล ทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความ หรือรูปภาพ การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ สถานการณ์หรือแบบจำลองต่างๆ

2. วิชาภาษาไทย ( คะแนนเต็ม 50 คะแนน ) 
     1) ความเข้าใจภาษา ทดสอบความสามารถในการอ่าน และการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความ และตีความด้วย
     2) การใช้ภาษา ทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ



ถ้าน้องๆคนไหนเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมได้เลยนะครับ

ถ้าสนใข้มูลอื่นๆเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ

Tuesday, 19 May 2020

[PDF]แนวข้อสอบ กพ. ภาค ก. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 3 ของ สำนักงาน กพ. จำนวน 80 ข้อ พร้อมเฉลย

[PDF] แนวข้อสอบ ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 3 ของ สำนักงาน กพ. จำนวน 80 ข้อ พร้อมเฉลย




หลักเกณฑ์การสอบ แข่งขันเข้ารับราชการ ความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.)



การทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
     การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสารถหรือศักยภาพ ในการเรียนรู้ของบุคคลเพื่อให้ได้ผู้ปฏิบัติงานที่สามารถเรียนรู้หรือฝึกฝนการปฏิบัติงานในตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถพัฒนาให้ปฏิบัติงานในระดับตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปจึงไม่ใช่แค่การวัดความรู้ที่บุคคลได้เรียนรู้จากระบบการศึกษาโดยตรง แต่เป็นการวัดความสามารถหรือศัยภาพในการนำความรู้ต่างๆ มาผสมผสานและจัดระเบียบใหม่เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือใช้กับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่บุคคลไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งความสามารถในแต่ละบุคคลมีผลต่อการเรียนรู้งาน การคิดและการแก้ปัญหา เรียกอีกอย่างนึงว่า เป็นความสามารถในการพัฒนาหรือฝึกฝนได้ (Train Ability)
     การใช้แบบทดสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสำนักงาน ก.พ. มีเหตุผลดังนี้
     1) เพื่อวัดศักยภาพพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติงานทุกตำแหน่ง ซึ่งเป็นความสามารถในการเรียนรู้เพื่อการปฏิบัติงานให้สำเร็จ โดยแบบทดสอบได้รับการพัฒนา และสร้างขึ้นตามหลักวิชาอย่างรอบครอบเพื่อให้สามารถวัดผลได้เที่ยงตรง ในทุกโอกาสและสถานการณ์ (Reliable an Accurate )
     2) แบบทดสอบมีความเป็นปรนัย (Objective) ทั้งในการตรวจให้คะแนนหรือแปลความหมายของคะแนน
     3) การใช้แบบทดสอบยึดหลักเสมอภาพ (Equal Basic ) เป็นการเปรียบเทียบความสามารถ ของผู้รับการทดสอบอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้รับการทดสอบจะได้การประเมินด้วยเนื้อหา หรือสถานการณ์ อย่างเดียวกัน ข้อแตกต่างอันเนื่องมากจากภูมิหลังและประสบการณ์จะไม่มีผลต่อการประเมิน
     4) การใช้แบบสอบถามมีความเป็นธรรม (Fairer) เนื่องจากมีการสร้างอย่างรอบครอบ เหมาะ สำหรับการทดสอบกับผู้รับการทดสอบ ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด หรือสำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาใด
     5) การใช้แบบทดสอบให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการ (Cost-Effective) โดยสามารถ ดำเนินการได้สะดวก รวดเร็ว เหมาะสมสำหรับกลั่นกรองผู้สมัครจำนวนมากๆ ให้เหลือจำนวนที่เพียงพอ (Manageable Numbers) ที่จำดำเนินการคัดเลือกในขั้นต่อไป

1. วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน )
     1) ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ ทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ควาามคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เบื่องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ การแก้ปัญหาเชิงปริมาณ และข้อมูลต่างๆ
     2) ความสามารถทางด้านเหตุผล ทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความ หรือรูปภาพ การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ สถานการณ์หรือแบบจำลองต่างๆ

2. วิชาภาษาไทย ( คะแนนเต็ม 50 คะแนน ) 
     1) ความเข้าใจภาษา ทดสอบความสามารถในการอ่าน และการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความ และตีความด้วย
     2) การใช้ภาษา ทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ



ถ้าน้องๆคนไหนเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมได้เลยนะครับ

ถ้าสนใข้มูลอื่นๆเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ

[PDF]แนวข้อสอบ กพ. ภาค ก. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 2 ของ สำนักงาน กพ. จำนวน 50 ข้อ พร้อมเฉลย

[PDF] แนวข้อสอบ ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 2 ของ สำนักงาน กพ. จำนวน 50 ข้อ พร้อมเฉลย




หลักเกณฑ์การสอบ แข่งขันเข้ารับราชการ ความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.)



การทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
     การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสารถหรือศักยภาพ ในการเรียนรู้ของบุคคลเพื่อให้ได้ผู้ปฏิบัติงานที่สามารถเรียนรู้หรือฝึกฝนการปฏิบัติงานในตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถพัฒนาให้ปฏิบัติงานในระดับตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปจึงไม่ใช่แค่การวัดความรู้ที่บุคคลได้เรียนรู้จากระบบการศึกษาโดยตรง แต่เป็นการวัดความสามารถหรือศัยภาพในการนำความรู้ต่างๆ มาผสมผสานและจัดระเบียบใหม่เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือใช้กับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่บุคคลไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งความสามารถในแต่ละบุคคลมีผลต่อการเรียนรู้งาน การคิดและการแก้ปัญหา เรียกอีกอย่างนึงว่า เป็นความสามารถในการพัฒนาหรือฝึกฝนได้ (Train Ability)
     การใช้แบบทดสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสำนักงาน ก.พ. มีเหตุผลดังนี้
     1) เพื่อวัดศักยภาพพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติงานทุกตำแหน่ง ซึ่งเป็นความสามารถในการเรียนรู้เพื่อการปฏิบัติงานให้สำเร็จ โดยแบบทดสอบได้รับการพัฒนา และสร้างขึ้นตามหลักวิชาอย่างรอบครอบเพื่อให้สามารถวัดผลได้เที่ยงตรง ในทุกโอกาสและสถานการณ์ (Reliable an Accurate )
     2) แบบทดสอบมีความเป็นปรนัย (Objective) ทั้งในการตรวจให้คะแนนหรือแปลความหมายของคะแนน
     3) การใช้แบบทดสอบยึดหลักเสมอภาพ (Equal Basic ) เป็นการเปรียบเทียบความสามารถ ของผู้รับการทดสอบอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้รับการทดสอบจะได้การประเมินด้วยเนื้อหา หรือสถานการณ์ อย่างเดียวกัน ข้อแตกต่างอันเนื่องมากจากภูมิหลังและประสบการณ์จะไม่มีผลต่อการประเมิน
     4) การใช้แบบสอบถามมีความเป็นธรรม (Fairer) เนื่องจากมีการสร้างอย่างรอบครอบ เหมาะ สำหรับการทดสอบกับผู้รับการทดสอบ ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด หรือสำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาใด
     5) การใช้แบบทดสอบให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการ (Cost-Effective) โดยสามารถ ดำเนินการได้สะดวก รวดเร็ว เหมาะสมสำหรับกลั่นกรองผู้สมัครจำนวนมากๆ ให้เหลือจำนวนที่เพียงพอ (Manageable Numbers) ที่จำดำเนินการคัดเลือกในขั้นต่อไป

1. วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน )
     1) ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ ทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ควาามคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เบื่องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ การแก้ปัญหาเชิงปริมาณ และข้อมูลต่างๆ
     2) ความสามารถทางด้านเหตุผล ทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความ หรือรูปภาพ การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ สถานการณ์หรือแบบจำลองต่างๆ

2. วิชาภาษาไทย ( คะแนนเต็ม 50 คะแนน ) 
     1) ความเข้าใจภาษา ทดสอบความสามารถในการอ่าน และการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความ และตีความด้วย
     2) การใช้ภาษา ทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ



ถ้าน้องๆคนไหนเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมได้เลยนะครับ

ถ้าสนใข้มูลอื่นๆเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ

Tuesday, 13 August 2019

[PDF] แนวข้อสอบ สอบเข้ารับราชการ ข้อสอบ ก.พ. วิชาภาษาไทย ชุดที่ 1 จำนวน 30 ข้อ พร้อมเฉลย

แนวข้อสอบ [PDF] สอบเข้ารับราชการ ก.พ. ภาค ก.  วิชาภาษาไทย ชุดที่ 1 จำนวน 30 ข้อ พร้อมเฉลย

น้องๆ สามารถดาวน์โหลดชุดข้อสอบ ก.พ. ได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะครับโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น




หลักเกณฑ์การสอบ แข่งขันเข้ารับราชการ ความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.)


การทอดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
     การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสารถหรือศักยภาพ ในการเรียนรู้ของบุคคลเพื่อให้ได้ผู้ปฏิบัติงานที่สามารถเรียนรู้หรือฝึกฝนการปฏิบัติงานในตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถพัฒนาให้ปฏิบัติงานในระดับตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปจึงไม่ใช่แค่การวัดความรู้ที่บุคคลได้เรียนรู้จากระบบการศึกษาโดยตรง แต่เป็นการวัดความสามารถหรือศัยภาพในการนำความรู้ต่างๆ มาผสมผสานและจัดระเบียบใหม่เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือใช้กับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่บุคคลไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งความสามารถในแต่ละบุคคลมีผลต่อการเรียนรู้งาน การคิดและการแก้ปัญหา เรียกอีกอย่างนึงว่า เป็นความสามารถในการพัฒนาหรือฝึกฝนได้ (Train Ability)
     การใช้แบบทดสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสำนักงาน ก.พ. มีเหตุผลดังนี้
     1) เพื่อวัดศักยภาพพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติงานทุกตำแหน่ง ซึ่งเป็นความสามารถในการเรียนรู้เพื่อการปฏิบัติงานให้สำเร็จ โดยแบบทดสอบได้รับการพัฒนา และสร้างขึ้นตามหลักวิชาอย่างรอบครอบเพื่อให้สามารถวัดผลได้เที่ยงตรง ในทุกโอกาสและสถานการณ์ (Reliable an Accurate )
     2) แบบทดสอบมีความเป็นปรนัย (Objective) ทั้งในการตรวจให้คะแนนหรือแปลความหมายของคะแนน
     3) การใช้แบบทดสอบยึดหลักเสมอภาพ (Equal Basic ) เป็นการเปรียบเทียบความสามารถ ของผู้รับการทดสอบอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้รับการทดสอบจะได้การประเมินด้วยเนื้อหา หรือสถานการณ์ อย่างเดียวกัน ข้อแตกต่างอันเนื่องมากจากภูมิหลังและประสบการณ์จะไม่มีผลต่อการประเมิน
     4) การใช้แบบสอบถามมีความเป็นธรรม (Fairer) เนื่องจากมีการสร้างอย่างรอบครอบ เหมาะ สำหรับการทดสอบกับผู้รับการทดสอบ ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด หรือสำเร็จการศึกษาจากสถาบันศึกษาใด
     5) การใช้แบบทดสอบให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการ (Cost-Effective) โดยสามารถ ดำเนินการได้สะดวก รวดเร็ว เหมาะสมสำหรับกลั่นกรองผู้สมัครจำนวนมากๆ ให้เหลือจำนวนที่เพียงพอ (Manageable Numbers) ที่จำดำเนินการคัดเลือกในขั้นต่อไป

1. วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน )
     1) ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ ทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ควาามคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เบื่องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ การแก้ปัญหาเชิงปริมาณ และข้อมูลต่างๆ
     2) ความสามารถทางด้านเหตุผล ทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความ หรือรูปภาพ การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ สถานการณ์หรือแบบจำลองต่างๆ

2. วิชาภาษาไทย ( คะแนนเต็ม 50 คะแนน ) 
     1) ความเข้าใจภาษา ทดสอบความสามารถในการอ่าน และการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความ และตีความด้วย
     2) การใช้ภาษา ทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ



ถ้าน้องๆคนไหนเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมได้เลยนะครับ

ถ้าสนใข้มูลอื่นๆเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้ที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ

Sunday, 29 April 2018

[PDF]2541 แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อย จปร.) วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 10 ข้อ พร้อมเฉลย ฟรี

แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อย จปร.) วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 10 ข้อ พร้อมเฉลย ฟรี


แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย และสังคมศึกษาุดนี้ จัดทำโดยอ้างอิงจากข้อสอบนายร้อย จปร สอบเข้าเตรียมทหาร ปี พ.ศ. 2541 มีจำนวนข้อสอบ 10 ข้อ พร้อมเฉลย น้องๆสามารถดาวน์โหลดแล้วนำไปทดสอบฝึกฝนได้ด้วยตัวเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นครับ โดยเนื้อหาของข้อสอบชุดนี้ครอบคลุม ชันมัธยมศึกษา ปี ที่ 4 ครับ






ผิดพลาดประการใดฝากแจ้งกลับทางคอมเมนต์ หรือไม่ก็แจ้งกลับทาง Email ที่ช่องส่งข้อมูลแถบด้านขวาล่างสุดได้เลยนะครับ สามารถติชม หรือส่งความคิดเห็นมาได้เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นยิ่งขึ้นไปครับ

ถ้าผู้ใดเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมไว้ด้วยนะครับ


ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามเราได้ที่

Google +

เพิ่มเพื่อน Line

YouTube

Fan Page

Monday, 20 November 2017

[PDF]2544 แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อย จปร.) วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 12 ข้อ พร้อมเฉลย ฟรี

แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อย จปร.) วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 12 ข้อ พร้อมเฉลย ฟรี


แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย และสังคมศึกษาุดนี้ จัดทำโโยอ้างอิงจากข้อสอบนายร้อย จปร สอบเข้าเตรียมทหาร ปี พ.ศ. 2544 มีจำนวนข้อสอบ 12 ข้อ พร้อมเฉลย น้องๆสามารถดาวน์โหลดแล้วนำไปทดสอบฝึกฝนได้ด้วยตัวเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นครับ โดยเนื้อหาของข้อสอบชุดนี้ครอบคลุม ชันมัธยมศึกษา ปี ที่ 4 ครับ








ผิดพลาดประการใดฝากแจ้งกลับทางคอมเมนต์ หรือไม่ก็แจ้งกลับทาง Email ที่ช่องส่งข้อมูลแถบด้านขวาล่างสุดได้เลยนะครับ สามารถติชม หรือส่งความคิดเห็นมาได้เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นยิ่งขึ้นไปครับ

ถ้าผู้ใดเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมไว้ด้วยนะครับ


ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามเราได้ที่

Google +

เพิ่มเพื่อน Line

YouTube

Fan Page

Friday, 13 October 2017

[PDF]แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อย จปร.) วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 100 ข้อ พร้อมเฉลย ฟรี

แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (นายร้อย จปร.) วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 100 ข้อ พร้อมเฉลย ฟรี


แนวข้อสอบวิชาภาษาไทย และสังคมศึกษาชุดนี้ จัดทำโดยอ้างอิงจากข้อสอบนายร้อย จปร. ปี 2537 มีจำนวนข้อสอบ 100 ข้อ น้องๆสามารถดาวน์โหลดแล้วนำไปทดสอบได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นนะครับ โดยเนื้อหาครอบคลุมระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 






ผิดพลาดประการใดฝากแจ้งกลับทางคอมเมนต์ หรือไม่ก็แจ้งกลับทาง Email ที่ช่องส่งข้อมูลแถบด้านขวาล่างสุดได้เลยนะครับ สามารถติชม หรือส่งความคิดเห็นมาได้เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นยิ่งขึ้นไปครับ

ถ้าผู้ใดเห็นว่าบทความไม่เหมาะสมแจ้งผมไว้ด้วยนะครับ


ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามเราได้ที่

Google +

เพิ่มเพื่อน Line

YouTube

Fan Page

Tuesday, 29 August 2017

การใช้คำในภาษาไทย สำหรับสอบเข้าเตรียมทหาร โรงเรียนเหล่าทัพ นายเรือ นายร้อยตำรวจ นายเรืออากาศ

การใช้คำในภาษาไทย


ข้อควรคำนึงในการเลือกใช้คำ

รู้จักใช้คำให้ถูกต้องเหมาะสมตามระดับของการสื่อสาร
ฐานะของบุคคลที่สื่อสารกันรวมทั้งโอกาสและกาลเทศะในการสื่อสารเป็นสิ่งกำหนดให้ระดับของภาษาที่ใช้สื่อสารมีความลดหลั่นต่างๆกันไป ถ้าใช้คำผิดระดับอาจทำให้การสื่อสารไม่สัมฤทธิ์ผลหรือถึงแก่ล้มเหลวก็ได้การจัดระดับของภาษาแบ่งออกได้เป็น 5 ระดับคือ

1 ระดับพิธีการ 2 ระดับทางการ 3 ระดับกึ่งทางการ 4 ระดับสนทนา 5 ระดับกันเอง

ในการสื่อสารของคนเรานั้นฐานะของผู้สื่อสารโอกาสกาละเทศะในการสื่อสารอาจต่างกัน ผู้สื่อสารอาจมีฐานะที่เสมอกันสูงหรือต่ำกว่ากันเช่น สื่อสารในฐานะเพื่อนกับเพื่อน ครูกับลูกศิษย์ บุตรกับบิดามารดา ผู้ขายกับผู้ซื้อ โอกาสและกาละเทศะในการสื่อสารก็อาจต่างกันเช่น การสื่อสารในโอกาสลำลองก็ควรใช้ภาษาระดับสนทนาหรือกันเองการสื่อสารในระดับที่ประชุมควรใช้ภาษาระดับทางการ การสื่อสารในที่สาธารณะในงานพิธีควรใช้ภาษาระดับพิธีการหรือทางการ ฯลฯ
การใช้คำหยาบนั้นต้องระลึกไว้เสมอว่าเป็นคำที่ระคายหู ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีแก่ผู้ที่ได้ยินได้ฟัง สำนวนที่หยาบและคำหยาบไม่ควรนำมาใช้ในที่สาธารณะและทางสื่อมวลชน เพราะภาษาเป็นเครื่องสะท้อนถึงจิตใจและความคิดซึ่งความคิดที่ดีงามจะสะท้อนเป็นภาษาที่งดงามและน่าฟัง
รู้จักใช้คำที่มีความหมายคล้ายกัน
คำที่มีความหมายคล้ายกันมีอยู่มากในภาษาไทยได้แก่ คำมูลคำซ้อนคำประสมและคำศัพท์ต่างๆ ที่ได้รับมาจากภาษาอื่นหรือการผูกคำขึ้นใช้โดยวิธีสมาสคำ
     1. ข้อมูล เช่น แกะ แคะ แงะ แทะ มีความหมายร่วมกันว่าทำให้เผยออกมา
     2.คำซ้อน เช่น อดทน,อดกลั้น

     - อดทน แปลว่าอดเอาทนเอามักใช้กับการกระทำเช่นเขาอดทนทำงานนั้นจนสำเร็จ
     - อดกลั้น แปลว่า สะกดใจไว้ได้มักใช้กับความรู้สึกต่างๆเช่นเขาอดกลั้นไว้อย่างเต็มที่ไม่แสดงความกดออกมา

     ขัดแย้ง,โต้แย้ง
     - ขัดแย้ง แปลว่าไม่ลงรอยกันซึ่งอาจจะเป็นการขัดแย้งทางความคิด คำพูดหรือการกระทำก็ได้ เช่นความคิดเห็นหรือฝ่ายหนึ่งพูดแต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยจึงโต้แย้งขึ้นเช่นเขาลุกขึ้นโต้แย้งทันทีเมื่อประธานในที่ประชุมกล่าวจบ

     รบเร้า,รบกวน
     - รบเร้า แปลว่าวิงวอนอย่างเร่งร้อนมีความหมายไปในเชิงขอร้อง เช่นน้องรบเร้าคุณพ่อให้พาไปเชียงใหม่
     - รบกวน แปลว่า ทำให้เกิดความรำคาญทำให้เกิดความเดือดร้อน มักจะมีความหมายในทางที่ไม่ดีนักเช่น ความรู้สึกและร้ายๆรบกวนอารมณ์เขาให้หงุดหงิดมากขึ้นทุกที

     3. คำประสม เช่น

     ใจอ่อน,อ่อนใจ
     - ใจอ่อน แปลว่ายอมง่ายสงสารง่ายเช่นเธออย่าใจอ่อนกับลูกมากนักเลยเดี๋ยวจะเสียเด็ก
     - อ่อนใจ แปลว่า เหนื่อยใจจิตใจเพลียระอาเบื่อเช่นคุณยายอ่อนใจที่จะต้องดูแลหลานซนซนทั้งหมดถึง 5 คนตามลำพัง

     น้ำตา,ตาน้ำ
     - น้ำตา แปลว่าน้ำที่ไหลซึมออกจากนัยตาเช่นถึงเธอจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดก็ไม่สามารถให้มันฟื้นคืนชีวิตกลับมาได้หรอก
     - ตาน้ำ แปลว่าทางน้ำใต้ดินที่มีน้ำไหลไม่ขาดสายเช่นขุดให้ลึกกว่านี้อีกสักนิดนึงเราอาจจะเจอตาน้ำได้

     4.คำศัพท์อื่นๆเช่น
     บุคลิกภาพ,บุคลากร ,บุคคล และ บุคลิกลักษณะ
     คำเหล่านี้มีความหมายร่วมกันว่าจำเพาะคนบุคคล
     - บุคลิกภาพ แปลว่าสภาพนิสัยจำเพาะของแต่ละคนเช่นนักเรียนควรสร้างบุคลิกภาพให้ดีเป็นที่น่านับถือแก่บุคคลทั่วไป
     - บุคลากร แปลว่าผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานเช่นบุคลากรของบริษัทนี้เป็นผู้มีความรับผิดชอบสูง
     - บุคคล แปลว่าคนสิ่งที่มีชีวิตซึ่งมิใช่สัตว์หรือพืชสามารถมีสิทธิและหน้าที่ได้เช่นเขาเป็นบุคคลที่พวกเราไม่พึงประสงค์
     - บุคลิกลักษณะ- แปลว่าลักษณะจำเพาะตัวของแต่ละคนเช่นสุชาติมีบุคลิกลักษณะเป็นผู้นำที่ดีได้

     สมรรถนะ,สมรรถภาพ
     สมรรถนะ กับสมรรถภาพ หมายถึงความสามารถ
     - สมรรถนะ แปลว่าความสามารถของเครื่องยนต์กลไกหรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆเช่นเครื่องยนต์รุ่นนี้มีสมรรถนะในการขับเคลื่อนสูง
     - สมรรถภาพ แปลว่าความสามารถของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในการทำงานต่างๆเช่นถึงเขาจะอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุเขาก็ยังมีสมรรถภาพทางร่างกายดีกว่าคนอื่นในกลุ่ม

รู้จักใช้คำที่ทำให้มองเห็นภาพหรือให้ความรู้สึกชัดขึ้นเป็นพิเศษ
ความรู้สึกที่ผ่านทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้ง 6 ทางนี้ปกติแล้วมีคำใช้มากมายในภาษาเช่น
     1.ทางตา มีคำที่บอกลักษณะของสีรูปร่างระยะทางความเข้มความแข็งแรงเช่นเหลืองสว่างมืดแข็งแรงกว้างขวางใหญ่โตสูงต่ำใกล้ไกล
     2. ทางหู มีคำที่บอกลักษณะของเสียงเช่นแหลมหวานทุ่มค่อยก้อง อู้อี้ แหบ ,ฯลฯ
     3. ทางจมูก มีคำที่บอกลักษณะของกลิ่นเช่นฉุนเหม็นหอมฟุ้งมหืนทคาว ฯลฯ
     4. ทางลิ้น มีคำที่บอกลักษณะของรถเช่นเปรี้ยวหวานมันเค็มเฝื่อนฝาด ฯลฯ
     5. ทางกาย มีคำที่บอกลักษณะของความรู้สึกสัมผัสเช่นเย็นร้อนอ่อนนุ่มละมุนแข็งตึง ฯลฯ
     6. ทางใจ มีคำที่บอกลักษณะของความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจเช่นกลัวกล้าคึกคักสนุกโลกโกรธเกลียดสงสารเศร้าซึมซึ้งสุขรื่นเริงแจ่มใส ฯลฯ

คำเหล่านี้เมื่อใช้ในประโยคจะช่วยเน้นความหมายให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เกิดจินตนาภาพหรือให้ความรู้สึกมากขึ้นเป็นพิเศษ แล้วถ้ารู้จักเลือกใช้คําวิเศษณ์มาประกอบให้เหมาะสม รวมทั้งใช้วิธีอุปมาเปรียบเทียบที่เหมาะสมก็จะเกิดความงามของภาษามากยิ่งขึ้นเช่น
     - ทุ่งหญ้าเขียวขจีทำให้พวกเรารู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด
     - บ้านหลังนั้นใหญ่โตมโหฬารเกินกว่าที่ทุกคนจะเข้าถึง
     - กลิ่นกุหลาบอ่อนๆฟุ้งกระจายไปทั่วห้องบรรยากาศชวนให้รื่นรมย์
     - ผมอาจจะช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บ้างเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่ลำบากอย่าเกรงใจมากมายไปเลย
     - ฉันเกลียดภาพนั้นจับใจมันดูน่าขยะแขยงโหดร้ายอย่างที่สุด
บุคคลจะรู้จักคำจนสามารถเลือกใช้คำได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการอ่านมากฟังมากสังเกตคำที่ได้อ่านได้ฟัง นอกจากนี้ยังต้องใช้พจนานุกรมจนเป็นนิสัยเพื่อดูความหมายของคำ รู้จักสะสมถ้อยคำสังเกตวิธีใช้คำ และฝึกหัดเขียนคำให้สม่ำเสมอ การรู้จักคำนั้นเกิดจากการสะสมโดยต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนาน เมื่อเรารู้จักคำว่าพอเราก็สามารถนำคำเหล่านั้นมาใช้ในโอกาสต่างๆได้ถูกต้อง ด้วยความเข้าใจคำที่เลือกใช้ได้ตรงความต้องการตรงตามความหมายและตรงตามความนิยม



Monday, 14 August 2017

การอ่านออกเสียงคำที่มีอักษรนำ การอ่านออกเสียงแผลง การอ่านออกเสียงคำสมาส วิชาภาษาไทย

การอ่านออกเสียงคำที่มีอักษรนำ

หลักการสังเกตในการอ่านออกเสียงคำที่มีอักษรนำ
     1. เมื่ออักษรสูงนำอักษรต่ำที่เป็นอักษรเดี่ยว (ง ญ น ย ณ ร ว ม ฬ ล) อักษรเดี่ยวนั้นผันเป็นอักษรสูงตามตัวอักษรตัวนำเช่น
          - ขยับขยาย       อ่านออกเสียง    ขะ-หยับ-ขะ-หยาย
          - สยดสยอง       อ่านออกเสียง    สะ-หยด-สะ-หยอง
          - สนุกสนาน       อ่านออกเสียง    สะ-หนุก-สะ-หนาน
          - ขมุกขมัว         อ่านออกเสียง     ขะ-หมุก-ขะ-หมัว
          - ไถง                 อ่านออกเสีบง     ถะ-ไหง
          - เถลิง               อ่านออกเสียง     ถะ-เหลิง
          - จรัส                 อ่านออกเสียง     จะ-หรัด
          - สมุทัย             อ่านออกเสียง     สะ-หมุ-ไท
          - ลักษณะ          อ่านออกเสียง      ลัก-สะ-หนะ
          - สวาท              อ่านออกเสียง     สะ-หวาด
          - อิสระ               อ่านออกเสียง     อิด-สะ-หระ

     2. ถ้า ห หรือ อ นำ ย ไม่ต้องอ่านออกเสียงนำ เช่น หรู ใหญ่หลวง อย่า อยู่ อย่าง อยาก เป็นแต่ผันคำไปตามอักษรตัวนั้น ถ้า ห นำ เสียงก็สูง ถ้า อ นำเป็นเสียงกลาง

การอ่านออกเสียงคำแผลง

หลักสังเกตในการอ่านออกเสียงคำแผลง
     1. คำเดิมที่มีพยัญชนะต้นเป็นอักษรควบหรือกล้ำ เมื่อแผลงเป็นสองพยางค์แล้วต้องอ่านออกเสียงพยางค์ท้ายให้เท่ากับเสียงเดิม เช่น
          - ตรวจ $\to$ ตำรวจ       อ่านออกเสียง   ตำ -หรวด
          - กราบ $\to$  กำราบ     อ่านออกเสียง   กำ-หราบ
          - ตริ $\to$  ดำริ              อ่านออกเสียง   ดำ-หริ
          - ปราบ $\to$ บำราบ     อ่านออกเสียง    บำ-หราบ
          - เสร็จ $\to$ สำเร็จ       อ่านออกเสียง    สำ-เหร็ด
          - ตรัส $\to$ ดำรัส         อ่านออกเสียง    ดำ-หรัด
ยกเวัน
          - ปราศ $\to$ บำราศ     อ่านออกเสียง    บำ-ราด
     2. คำเดิมที่มีพยัญชนะต้นตัวเดียว โดยมากเมื่อแผลงเป็นสองพยางค์แล้วมักออกเสียงพยางค์หลังตามรูป คือเขียนอย่างไรก็ออกเสียงนั้น เช่น
          - แจก $\to$ จำแนก      อ่านออกเสียง    จำ-แนก
          - อาจ $\to$ อำนาจ       อ่านออกเสียง    อำ-นาด

ยังมีคำสมาสอีกหลายคำที่ออกเสียงได้ทั้งสองอย่าง ดังนี้



คำ อ่านออกเสียง
แบบทที่ 1 แบบที่ 2
เกตุมาลา เก-ตุ-มา-ลา เกต-มา-ลา
ราชบุรี ราด-ชะ-บุ-รี ราด-บุ-รี
อุดมศึกษา อุ-ดม-มะ-สึก-สา อุ-ดม-สึก-สา
โจรกรรม โจ-ระ-กำ โจน-ระ-กำ
ชาติพลี ชาด-ติ-พะ-ลี ชาด-พะ-ลี
จันทรุปราคา จัน-ทรุ-ปะ-รา-คา จัน-ทะ-รุ-ปะ-รา-คา
คุณประโยชน์ คุน-นะ-ประ-โหยด คุน-ประ-โหยด
ปรโลก ปะ-ระ-โลก- ปอ-ระ-โลก
ปกติ ปะ-กะ-ติ ปก-กะ-ติ
ประกาศนียบัตร ประ-กา-สะ-นี-ยะ-บัด ประ-กาด-สะ-นี-ยะ-บัด
ประถมศึกษา ประ-ถม-มะ-สึก-สา ประ-ถม-สึก-สา
ประวัติกาล ประ-หวัด-ติ-กาน ประ-หวัด-กาน
ประวัติศาสตร์ ประ-หวัด-ติ-สาด ประ-หวัด-สาด
ปรากฏการณ์ ปรา-กด-ตะ-กาน ปรา-กด-กาน
ภาชนะ พา-ชะ-นะ พาด-ชะ-นะ
ภูมิลำเนา พู-มิ-ลำ-เนา พูม-ลำ-เนา
มนุษยชาติ มะ-นุด-สะ-ยะ-ชาด มะ-นุน-สะ-ชาด
มนุษยโลก มะ-นุด-สะ-ยะ-โลก มะ-นุด-สะ-โลก
วัยวุฒิ ไว-ยะ-วุด-ทิ ไว-ยะ-วุด
ศัลยกรรม สัน-ละ-ยะ-กรรม สัน-ยะ-กำ
ศัลยแพทย์ สัน-ละ-ยะ-แพด สัน-ยะ-แพด
โศกนาฏกรรม โส-กะ-นาด-ตะ-กำ โสก-กะ-นาด-ตะ-กำ
สรภัญญะ สะ-ระ-พัน-ยะ สอ-ระ-พัน-ยะ
สรรพสัตว์ สัน-พะ-สัด สับ-พะ-สัด
สรรเสริญ สัน-ระ-เสิน สัน-เสิน

           - อธิษฐาน      อ่านออกเสียง     อะ-ทิด-ถาน
     คำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤตบางคำออกเสียงไม่ตรงตามหลักข้างต้น เช่น
          - ลัคนา           อ่านออกเสียง      ลัก-คะ-นา
          - อัคนี             อ่านออกเสียง       ลัก-คะ-นา
          - อาตมา         อ่านออกเสียง       อาด-ตะ-มา

คำนั้นออกเสียงสระ อิ อุ ซึ่งอยู่ท้ายพยางค์หรือไม่

     คำที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตซึ่งเดิมเป็นคำ 2 พยางค์ขึ้นไป ไม่ต้องออกเสียงสระ เช่น
          - เกตุ              อ่านออกเสียง      เกด
         - ชาติ              อ่านออกเสียง      ชาด
         - ญาติ             อ่านออกเสียง      ยาด
          - มาตุ             อ่านออกเสียง      มาด
          - เมรุ              อ่านออกเสียง      เมน

ข้อสังเกต
     การอ่านคำบาลีสันสกฤตตามอักษรวิธีของไทยนั้น เรานำอัขรวิธีของเราเข้าไปปนกับอักขรวิธีของเขา ทำให้อ่านอย่างของเราและของเขาในคำเดียวกัน กการออกเสียงคำทั้งหมดต้องยยึดตามแบบของราชบัญฑิตยสถานเป็นหลักและใช้ให้ตรงกัน

การออกเสียงคำสมาส

     คำสมาส คือ คำที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป รวมกันเกิดเป็นคำใหม่ มีความหมายต่อเน่ืองกับคำเดิม เช่น ภูมิศาสตร์ สารคดี ประวิติศาสตร์ ราชการ ฯลฯ
     การออกเสียงคำสมาสต้องอ่านออกเสียงสระต่อเน่่ืองกันในระหว่างคำ เช่น
          - อุทกภัย       อ่านออกเสียง     อุ-ทก-กะ-ไพ
          - แสวกบุตร   อ่านออกเสียง      เส-วะ-กะ-บุด
          -จุลสาร         อ่านออกเสียง      จุน-ละ-สาน
          - ไทยทาน    อ่านออกเสียง      ไท-ยะ-ทาน

     ในภาษาไทยเลยนิยมอ่านต่อเนื่องคำเพื่อความไพเราะอย่างสมาสบ้าง เช่น
          - เทพเจ้า      อ่านออกเสียง       เทบ-พะ-เจ้า
          - กรมท่า       อ่านออกเสียง        กรม-มะ-ท่า
          - จุลจอม       อ่านออกเสียง       จุน-ละ-จอม
          - ทุนทรัพย์    อ่านออกเสียง       ทุน-นะ-ซับ


     *** เนื่อหาความรู้ วิชาภาษาไทยชุดนี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่สนใจสอบเข้าเตรียมทหาร หรือนักเรียนนายร้อยตำรวจ วุฒิ ม.4


Saturday, 5 August 2017

[PDF]แนวข้อสอบ นักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพเรือ (นักเรียนนายเรือ) วิชาภาษาไทย สังคม พ.ศ.2548 พร้อมเฉลย

แนวข้อสอบนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ .pdf

วิชาภาษาไทย และสังคมศึกษา พร้อมเฉลยคำตอบ น้องๆสามารถดาวน์โหลดไปศึกษาได้ฟรีนะครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ





พี่ตั้งใจพิมพ์เอกสารชุดนี้อย่างประณีตที่สุดนะครับเพื่อให้น้องๆได้รับประสบการณ์การอ่านที่ดีครับ หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับน้องๆที่สนใจนะครับ ที่ต้องทำลายน้ำเพราะป้องกันผู้ที่จะนำไปขายครับ แนะนำให้แชร์ไปให้เพื่อนหรือไม่ก็ ดาวน์โหลดไปให้เพื่อนดีกว่าครับ 

     ผิดพลาดประการใดฝากแจ้งกลับที่คอมเมนต์ไว้ด้วยนะครับ ผมจะไดนำไปปรับปรุงให้เกิดความเรียบร้อยครับ



ระเบียบการทั่วไป การเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ (นักเรียนนายเรือ) 2560

 สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ : โรงเรียนนายเรือ
คุณสมบัติและลักษณะของผู้สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
     สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า
     อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหารการนับอายุให้นับตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร
     มีสัญชาติไทยและบิดามารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือหน้าตำรวจสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวนหรือนายตำรวจประทวนซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้วมารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
     ขนาดของร่างกายต้องมีขนาดพิกัดความสมบูรณ์ตามที่กำหนด
     มีอวัยวะรูปร่างลักษณะท่าทางเหมาะแก่การเป็นทหาร ไม่มีโรคต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารและตามระเบียบที่กองทัพไทยกำหนด
     เป็นชายโสด
     เป็นผู้มีความประพฤติดีไม่บกพร่องในศีลธรรมเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
     ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างตกเป็นจำเลยในคดีอาญาหรือไม่เคยต้องคำพิพากษาของศาลว่าได้กระทำผิดในคดีอาญา เว้นแต่ความผิดในลักษณะฐานลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
     ไม่เคยถูกไล่ออกหรือถูกปลดออกจากสถานศึกษาในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนทหาร โรงเรียนตำรวจ หรือที่ทางราชการไล่ออก หรือปลดออก ทั้งนี้เนื่องจากความประพฤติไม่เหมาะสม
     ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติดหรือสารเสพติดให้โทษที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
     ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับส่วนราชการใดๆอันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
     บิดามารดาและผู้ปกครองเป็นผู้มีอาชีพสุจริตชอบธรรมและมีหลักฐานเชื่อถือได้
     เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
     มีผู้ปกครองและผู้รับรองซึ่งสามารถรับรองข้อความและพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้
หมายเหตุ คุณสมบัติและคุณลักษณะดังกล่าวนี้ข่าวปรากฏว่าเป็นความที่ขึ้นภายหลังจากที่รับเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้วจะต้องพ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหารทันทีและผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
การคัดเลือก แบ่งออกเป็น 2 รอบคือ
     การสอบภาควิชาการ เป็นการทดสอบความรู้ด้านวิชาการเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานดีเพียงพอที่จะศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร และเมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในด้านวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนนายเรือได้ต่อไป
          วิชาที่สอบและคะแนนในการสอบภาควิชาการ จะทำการสอบวิชาคณิตศาสตร์วิชาวิทยาศาสตร์วิชาภาษาอังกฤษวิชาภาษาไทย และวิชาสังคมศึกษา โดยมีขอบเขตเนื้อหารายวิชาครอบคลุมความรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4) ของกระทรวงศึกษาธิการโดยมีคะแนนดังนี้
          - วิชาคณิตศาสตร์ 220 คะแนน (คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40)
          - วิชาวิทยาศาสตร์ 220 คะแนน
          - วิชาภาษาอังกฤษ 160 คะแนน ( คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40)
          - วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 100 คะแนน
     ในการสอบภาควิชาการโรงเรียนนายเรือจัดเตรียมดินสอดำชนิด 2B และยางลบที่จะใช้ในการทำข้อสอบไว้ให้ผู้สมัครทุกคน โดยผู้สมัครไม่ต้องนำดินสอ และยางลบของตนเองเข้าห้องสอบ และห้ามผู้สมัครนำอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่างๆนาฬิกาข้อมือหรือกระดาษจดข้อความหรือกระดาษอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบ เข้าในห้องสอบโดยเด็ดขาดหาผู้สมัครฝ่าฝืนและกรรมการคุมสอบตรวจพบการนำสิ่งต้องห้ามเข้าห้องสอบจะถือว่าผู้นั้นกระทำการทุจริตในการสอบ นอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย
     การสอบรอบสอง จะคัดเลือกผู้ที่สอบภาควิชาการที่ได้เรียงตามลำดับคะแนนสูงสุดตามจำนวนที่ต้องการเข้าทดสอบสุขภาพจิต สอบพลศึกษาสัมภาษณ์ท่วงทีวาจาและตรวจร่างกายเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความเหมาะสม และมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตรที่มีคุณภาพของกองทัพเรือต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ไม่มาเข้าทำการทดสอบรอบ 2 ตามวันและเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ์ โดยมีการทดสอบดังนี้
          การทดสอบสุขภาพจิต เป็นการตรวจสอบสภาพความสมบูรณ์และความเหมาะสมทางด้านจิตใจของผู้สมัคร โดยผู้สมัครต้องชำระเงินค่าตรวจร่างกายและการตรวจทางการแพทย์จำนวน 1,230 บาทในวันพุธสอบสุขภาพจิตด้วย
          การทดสอบพลศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้สมัครซึ่งมีคะแนนในการสอบพลศึกษา 100 คะแนน ซึ่งจะนำคะแนนสอบพลศึกษาไปรวมกับคะแนนสอบภาควิชาการ 700 คะแนนรวมเป็น 800 คะแนน แล้วจัดลำดับที่ใหม่ในการประกาศผลสอบรอบสอง ต่อไป (หากไม่สามารถว่ายน้ำได้หรือว่ายน้ำไม่ผ่านในเวลาที่กำหนดถือว่าสอบไม่ผ่านรอบสอง)
          การสอบสัมภาษณ์ท่วงทีวาจา เป็นการพิจารณาตรวจสอบรูปร่าง ลักษณะท่าทางความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจว่องไว และปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนลักษณะความเหมาะสมที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตรของผู้สมัคร มีผลการสอบผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น ผู้สอบไม่ผ่าน หมายถึงผู้ที่มีลักษณะท่าทาง หรือลักษณะความสมบูรณ์ของร่างกายไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตร
          การตรวจร่างกาย ผู้สมัครจะต้องรับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ผู้ที่ไม่มารับการตรวจร่างกาย ตามวันและเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ ผลการตรวจร่างกาย ณ วันตรวจ ถือเอาความเห็นของกรรมการแพทย์ที่กองทัพเรือแต่งตั้งเป็นเด็ดขาด โดยไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายจากที่อื่นๆ นอกจากการตรวจร่างกายแล้วจะมีการเอกซเรย์ตรวจโลหิต และตรวจปัสสาวะด้วย ในกรณีที่แพทย์ต้องการตรวจพิเศษนอกเหนือจากการตรวจธรรมดาดังกล่าว ผู้รับการตรวจจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง
     คำแนะนำ การปฏิบัติในวันตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องทดลอง
           - ไม่ควรรับประทานยาใดๆเช่น ยาแก้หวัด ยาแก้ไอ ยาแก้โรคหอบหืด ยาลดความอ้วนยาที่มีผลต่อจิตประสาท ฯลฯ หรือยาใดๆ ที่อาจมีผลต่อการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ
          - ก่อนวันตรวจ และเช้าวันตรวจผู้สมัครไม่ควรรับประทานอาหารและยาประเภทกระตุ้นกำลังเพราะอาจทำให้การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตผิดปกติได้
          - ห้ามผู้สมัครใส่คอนแทคเลนส์มาตรวจสายตา
          - ผู้สมัครควรงดรับประทานอาหารหลังเวลา 24.00 นาฬิกาก่อนวันที่ทำการตรวจ
การเข้าสอบและการออกจากห้องสอบ
     การเข้าสอบภาควิชาการวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือขาดการทดสอบสุขภาพจิตหรือขาดสอบพลศึกษา หรือขาดสอบสัมภาษณ์ท่วงทีวาจาหรือขาดตรวจร่างกาย จะที่ว่าผู้นั้นหมดสิทธิในการสอบคัดเลือก
     ผู้ที่กระทำการทุจริตในการสอบ หรือช่วยเหลือในการทำทุจริต จะถือว่าผู้นั้นหมดสิทธิ ในการสอบคัดเลือกนอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
     ผู้ที่มาเข้าห้องสอบช้ากว่าเวลาเริ่มต้นสอบเกิน 30 นาที จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบและถือว่าขาดสอบ
     การออกจากห้องสอบให้ออกเมื่อได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเท่านั้น

Saturday, 8 July 2017

[PDF]แนว ข้อสอบเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพบก นายร้อย จปร. วิชาภาษาไทย และสังคมศึกษา พ.ศ.2548

แนวข้อสอบนักเรียนเตรียมทหาร นายร้อย จปร. วิชาภาษาไทย และสังคมศึกษา.pdf






[PDF]แนว ข้อสอบเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพเรือ (นักเรียนนายเรือ) วิชาภาษาไทย สังคม พ.ศ.2547

แนวข้อสอบนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนนายเรือ .pdf

วิชาภาษาไทย และ สังคมศึกษาพร้อมเฉลยคำตอบ น้องๆสามารถดาวน์โหลดไปศึกษาได้ฟรีนะครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ



พี่ตั้งใจพิมพ์เอกสารชุดนี้อย่างประณีตที่สุดนะครับเพื่อให้น้องๆได้รับประสบการณ์การอ่านที่ดีครับ หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับน้องๆที่สนใจนะครับ ที่ต้องทำลายน้ำเพราะป้องกันผู้ที่จะนำไปขายครับ แนะนำให้แชร์ไปให้เพื่อนหรือไม่ก็ ดาวน์โหลดไปให้เพื่อนดีกว่าครับ 
     ผิดพลาดประการใดฝากแจ้งกลับที่คอมเมนต์ไว้ด้วยนะครับ ผมจะไดนำไปปรับปรุงให้เกิดความเรียบร้อยครับ


ระเบียบการทั่วไป การเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ (นักเรียนนายเรือ) 2560

 สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ : โรงเรียนนายเรือ
คุณสมบัติและลักษณะของผู้สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
     สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า
     อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหารการนับอายุให้นับตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร
     มีสัญชาติไทยและบิดามารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือหน้าตำรวจสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวนหรือนายตำรวจประทวนซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้วมารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
     ขนาดของร่างกายต้องมีขนาดพิกัดความสมบูรณ์ตามที่กำหนด
     มีอวัยวะรูปร่างลักษณะท่าทางเหมาะแก่การเป็นทหาร ไม่มีโรคต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารและตามระเบียบที่กองทัพไทยกำหนด
     เป็นชายโสด
     เป็นผู้มีความประพฤติดีไม่บกพร่องในศีลธรรมเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
     ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างตกเป็นจำเลยในคดีอาญาหรือไม่เคยต้องคำพิพากษาของศาลว่าได้กระทำผิดในคดีอาญา เว้นแต่ความผิดในลักษณะฐานลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
     ไม่เคยถูกไล่ออกหรือถูกปลดออกจากสถานศึกษาในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนทหาร โรงเรียนตำรวจ หรือที่ทางราชการไล่ออก หรือปลดออก ทั้งนี้เนื่องจากความประพฤติไม่เหมาะสม
     ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติดหรือสารเสพติดให้โทษที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
     ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับส่วนราชการใดๆอันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
     บิดามารดาและผู้ปกครองเป็นผู้มีอาชีพสุจริตชอบธรรมและมีหลักฐานเชื่อถือได้
     เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
     มีผู้ปกครองและผู้รับรองซึ่งสามารถรับรองข้อความและพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้
หมายเหตุ คุณสมบัติและคุณลักษณะดังกล่าวนี้ข่าวปรากฏว่าเป็นความที่ขึ้นภายหลังจากที่รับเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้วจะต้องพ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหารทันทีและผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
การคัดเลือก แบ่งออกเป็น 2 รอบคือ
     การสอบภาควิชาการ เป็นการทดสอบความรู้ด้านวิชาการเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานดีเพียงพอที่จะศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร และเมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในด้านวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนนายเรือได้ต่อไป
          วิชาที่สอบและคะแนนในการสอบภาควิชาการ จะทำการสอบวิชาคณิตศาสตร์วิชาวิทยาศาสตร์วิชาภาษาอังกฤษวิชาภาษาไทย และวิชาสังคมศึกษา โดยมีขอบเขตเนื้อหารายวิชาครอบคลุมความรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4) ของกระทรวงศึกษาธิการโดยมีคะแนนดังนี้
          - วิชาคณิตศาสตร์ 220 คะแนน (คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40)
          - วิชาวิทยาศาสตร์ 220 คะแนน
          - วิชาภาษาอังกฤษ 160 คะแนน ( คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40)
          - วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 100 คะแนน
     ในการสอบภาควิชาการโรงเรียนนายเรือจัดเตรียมดินสอดำชนิด 2B และยางลบที่จะใช้ในการทำข้อสอบไว้ให้ผู้สมัครทุกคน โดยผู้สมัครไม่ต้องนำดินสอ และยางลบของตนเองเข้าห้องสอบ และห้ามผู้สมัครนำอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่างๆนาฬิกาข้อมือหรือกระดาษจดข้อความหรือกระดาษอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบ เข้าในห้องสอบโดยเด็ดขาดหาผู้สมัครฝ่าฝืนและกรรมการคุมสอบตรวจพบการนำสิ่งต้องห้ามเข้าห้องสอบจะถือว่าผู้นั้นกระทำการทุจริตในการสอบ นอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย
     การสอบรอบสอง จะคัดเลือกผู้ที่สอบภาควิชาการที่ได้เรียงตามลำดับคะแนนสูงสุดตามจำนวนที่ต้องการเข้าทดสอบสุขภาพจิต สอบพลศึกษาสัมภาษณ์ท่วงทีวาจาและตรวจร่างกายเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความเหมาะสม และมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตรที่มีคุณภาพของกองทัพเรือต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ไม่มาเข้าทำการทดสอบรอบ 2 ตามวันและเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ์ โดยมีการทดสอบดังนี้
          การทดสอบสุขภาพจิต เป็นการตรวจสอบสภาพความสมบูรณ์และความเหมาะสมทางด้านจิตใจของผู้สมัคร โดยผู้สมัครต้องชำระเงินค่าตรวจร่างกายและการตรวจทางการแพทย์จำนวน 1,230 บาทในวันพุธสอบสุขภาพจิตด้วย
          การทดสอบพลศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้สมัครซึ่งมีคะแนนในการสอบพลศึกษา 100 คะแนน ซึ่งจะนำคะแนนสอบพลศึกษาไปรวมกับคะแนนสอบภาควิชาการ 700 คะแนนรวมเป็น 800 คะแนน แล้วจัดลำดับที่ใหม่ในการประกาศผลสอบรอบสอง ต่อไป (หากไม่สามารถว่ายน้ำได้หรือว่ายน้ำไม่ผ่านในเวลาที่กำหนดถือว่าสอบไม่ผ่านรอบสอง)
          การสอบสัมภาษณ์ท่วงทีวาจา เป็นการพิจารณาตรวจสอบรูปร่าง ลักษณะท่าทางความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจว่องไว และปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนลักษณะความเหมาะสมที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตรของผู้สมัคร มีผลการสอบผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น ผู้สอบไม่ผ่าน หมายถึงผู้ที่มีลักษณะท่าทาง หรือลักษณะความสมบูรณ์ของร่างกายไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตร
          การตรวจร่างกาย ผู้สมัครจะต้องรับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ผู้ที่ไม่มารับการตรวจร่างกาย ตามวันและเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ ผลการตรวจร่างกาย ณ วันตรวจ ถือเอาความเห็นของกรรมการแพทย์ที่กองทัพเรือแต่งตั้งเป็นเด็ดขาด โดยไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายจากที่อื่นๆ นอกจากการตรวจร่างกายแล้วจะมีการเอกซเรย์ตรวจโลหิต และตรวจปัสสาวะด้วย ในกรณีที่แพทย์ต้องการตรวจพิเศษนอกเหนือจากการตรวจธรรมดาดังกล่าว ผู้รับการตรวจจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง
     คำแนะนำ การปฏิบัติในวันตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องทดลอง
           - ไม่ควรรับประทานยาใดๆเช่น ยาแก้หวัด ยาแก้ไอ ยาแก้โรคหอบหืด ยาลดความอ้วนยาที่มีผลต่อจิตประสาท ฯลฯ หรือยาใดๆ ที่อาจมีผลต่อการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ
          - ก่อนวันตรวจ และเช้าวันตรวจผู้สมัครไม่ควรรับประทานอาหารและยาประเภทกระตุ้นกำลังเพราะอาจทำให้การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตผิดปกติได้
          - ห้ามผู้สมัครใส่คอนแทคเลนส์มาตรวจสายตา
          - ผู้สมัครควรงดรับประทานอาหารหลังเวลา 24.00 นาฬิกาก่อนวันที่ทำการตรวจ
การเข้าสอบและการออกจากห้องสอบ
     การเข้าสอบภาควิชาการวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือขาดการทดสอบสุขภาพจิตหรือขาดสอบพลศึกษา หรือขาดสอบสัมภาษณ์ท่วงทีวาจาหรือขาดตรวจร่างกาย จะที่ว่าผู้นั้นหมดสิทธิในการสอบคัดเลือก
     ผู้ที่กระทำการทุจริตในการสอบ หรือช่วยเหลือในการทำทุจริต จะถือว่าผู้นั้นหมดสิทธิ ในการสอบคัดเลือกนอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
     ผู้ที่มาเข้าห้องสอบช้ากว่าเวลาเริ่มต้นสอบเกิน 30 นาที จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบและถือว่าขาดสอบ
     การออกจากห้องสอบให้ออกเมื่อได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเท่านั้น

Friday, 30 June 2017

[PDF]แนว ข้อสอบเตรียมทหาร นายร้อย จปร. วิชาภาษาไทย และสังคมศึกษา พ.ศ.2553 พร้อมเฉลย


แนวข้อสอบเตรียมทหาร วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา .pdf

สามารถดาวน์โหลด(Download) ได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายๆใดๆทั้งสิ้นครับ




ข้อสอบชุดนี้ผมได้จัดพิมพ์อย่างปราณีตหวังว่าน้องๆจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการอ่านนะครับ ที่ผมต้องทำลายน้ำไว้เยอะขนาดนี้ก็เพราะว่าด้วยมีบางคนนำเอกสารต่างๆ ไปแสดงหาประโยชน์ทางการค้าผมเลยไม่อยากให้ทำแบบนั้นครับ แนะนำให้เพื่อนที่สนใจโดยการแชร์ หรือไม่ก็ดาวน์โหลดไปให้เพื่อนก็ได้ครับ แต่ขอร้องว่าอย่านำไปขายให้คนอื่นต่อเลยนะครับ


Sunday, 5 March 2017

[PDF]แนว ข้อสอบภาษาไทย ข้อสอบเตรียมทหาร ข้อสอบนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(นายร้อย จปร.) ประจำปี 2547

ข้อสอบเตรียมทหาร ข้อสอบนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(นายร้อย จปร.) ประจำปี 2547 ภาษาไทย

แนวข้อสอบวิชาภาษาไทยเจ้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก(นายร้อย จปร.) ปี 2547 PDF Downloads ดาวน์โหลดฟรีพร้อมเฉลย

มีทั้งหมด 13 ข้อ
1. ภาษาไทยดั้งเดิมเริ่มคำโดด    อวยประโยชน์สื่อความหมายได้งามสม
    ต่อมาเพิ่มหลายพยางค์ต่างนิยม    อีกคิดสร้างคำประสมและคำซ้อน
    คบต่างชาติก้าวหน้าอารยะ             คำเทศคละคำไทยแท้แลสลอน
    เพิ่มสมาสยลแยบแบบสุนทร         แต่งโฃลงกลอนกาพย์ฉันท์บรรเจิดลักษณ์
     คำประพันธ์ต่อไปนี้กล่าวถึงเรื่องใด
     1. พัฒนาการของภาษาไทย
     2. การเปลี่ยนแปลงของภาษาไทย
     3. คำโดด คำประสม และคำซ้อน
     4. การใช้คำภาษาต่างประเทศปนกับคำภาษาไทย
     5. การใช้คำสมาสแต่งคำประพันธ์

2. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของคำมูล
     1. เป็นคำพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้
     2. เป็นคำที่มีความหมายชัดเจนในตัว
     3. คำเดียวกันบางคำสามารถทำหน้าที่ต่างกันได้
     4. เป็นคำไทยแท้แต่ดั้งเดิมไม่รวมคำที่มาจากภาษาอื่น
     5. เป็นคำชนิดต่างๆ ได้แก่ คำนาม คำสรรพนาม คำกิริยา คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำสันธานและคำอุทาน

3. คำประพันธ์ข้อใดมีคำกร่อนเสียงมากที่สุด
     1. สายัณห์ตะวันยาม       ขณะข้ามทิฆัมพร
เข้าภาคนภาตอน                  ทิศะตกก็รำไร
     2. ไรๆไสวร่อน                 จระว่อนวิหกพรรณ
เหนือพฤกษะไพรผัน             มุขะเพื่อจะเมือรัง
     3. ริวๆระริ้วเรื่อย               ระยะเฉื่อยฉะฉิวแสน
เย็นกายสบายแดน                มนะด้วยระรวยลม
     4. ครืนๆคะครื้นครั่น          ชละลั่นสนั่นดัง
โดยทางทะเลฟัง                   สรคลื่นคะเครงโครม
     5. เรือใบคระไลคล่อง       ละเลาะล่องชะลอสินธุ์
ไปมาและหากิน                    กิจะเกี่ยวกะมัจฉา

4. คำในข้อใดประวิสรรชนีย์ไม่ถูกต้อง
     1. ใบไม้เขียวขจี          ดีเส้นทแยงมุม
     2. จากไปกะทันหัน      ชายฉกรรจ์โซรมหญิง
     3. หอบของพะรุงพะรัง  กะละมังอยู่ไหน
     4. บูรณปฏิสังขรณ์       สอนศิลปวัฒนธรรม
     5. ขบวนการปล้นชาติ  ขาดความละเอียดละออ

5. คำนามข้อใดใช้ลักษณะนามต่างกัน
     1. ตาราง ธนาคาร ทบวง
     2. หมากเก็บ เสือข้ามห้วย เสือตกถัง
     3. ลาดพระบาท อาสนะ สังฆาฏิ
     4. หนังสือพิมพ์ ลายพระหัตถ์ สูติบัตร
     5. ไมโครโฟน รุ่งกินน้ำ เครื่องหมายดอกจัน

6. ความข้อใดกล่าวถึงเสภาขุนช้างขุนแผนไม่ถูกต้อง
     1. บทเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นวรรณกรรมคดีเรื่องเล่าขนาดยาวเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน งานอาชีพ ความเชื่อถือ และประเพณีของคนไทยสมัยปลายอยุธยา จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
     2. การขับเสภาเป็นการเล่านิทานโดยใช้กลอนเสภาเป็นสื่อ
     3. โวหารหรือการใช้ถ้อยคำที่กระทบอารมณ์กระทบใจคนที่เด่นที่สุดของเสภาขุนช้างขุนแผนคือโวหารรัก
     4. หนังสือสาส์นสมเด็จกล่าวถึงคุณค่าของเสภาขุนช้างขุนแผนในแง่ของเค้าโครงเรื่องดีเด่น
     5. ขุนช้างขุนแผนตอนพรายงามพบพ่อเป็นสำนวนการเขียนของสุนทรภู่

7. ความหมายของคำในข้อใดไม่เข้ากลุ่มกัน
     1. ยำใหญ่    ไตปลา    ล่าเตียง
     2. พาหุรัด     ทับทรวง กุณฑล
     3. ไผท          พสุธา     ธาษตรี
     4. ปรปักษ์     ดัสกร      ริปู
     5. นกบินกรวด จากพราก  เบญจวรรณ

8. คำสรรพนามราชาศัพท์ข้อใดใช้ไม่ถูกต้อง
     1. พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว   - ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
     2. สมเด็จพระบรมราชินีนาถ         - ใต้ฝ่าละอองพระบาท
     3. ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า                      - ใต้ฝ่าพระบาท
     4. ชั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า  - ฝ่าพระบาท
     5. ชั้นหม่อมเจ้า                             - ฝ่าบาท

9. คำราชศัพท์ข้อใดไม่ถูกต้อง
     สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯให้หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล เสด็จแทนพระองค์ไปเป็นประธานงานราตรีศรีราชภัฎ ซึ่งสถาบันราชภัฎสวนดุสิต จัดน้อมเกล้าฯ ถวาย เนื่องในโอกาสทรงพระเจริญพระชนมายุ 52 พรรษา
     1. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
     2. เสด็จแทนพระองค์
     3. เป็นประธาน
     4. น้อมเกล้าฯถวาย
     5. ทรงเจริญพระชนมายุ 52 พรรษา

10. คำประพันธ์ข้อใดกล่าวถึงเวลาต่างจากข้ออื่น
     1. พระสุริยาสายัณห์ลงไรไร     เหมือนจิตใจเจ้าจะขาดลงรอนรอน
     2. เห็นแสงทองหมองจิตคิดถึงลูก  สั่งบ่าวผู้ช้างสัปกับใหญ่
     3. แล้วสมภารท่านก็หลับระงับเงียบ   ยิ่งเย็นเยียบเยือกใจเมื่อไก่ขัน
     4. นางวันทองร้องไห้เมื่อใกล้รุ่ง     น้ำค้างฟุ้งฟ้าแดงเป็นแสงเสน
     5. ถึงวัดเขาเช้าตรู่ดูลูกน้อย         เห็นมาคอยนั่งท่าน่าสงสาร

11. ข้อใดมีทั้งคำมูล คำประสม และคำซ้อน
     1. แตงกวา  แกงปลาดุก   ปลูกต้นไม้
     2. มะละกอ  งอแง  แกะเกา
     3. นาฬิกา   ฝนหลวง  หม้อแปลง
     4. ลำไย   ปลอมปน   หม่นหมอง
     5. ปะการัง  ลวดลาย   เกี่ยวพัน

12. คำประพันธ์ข้อใด  ไม่มีอุปมาอุปไมย
     1. ความรู้ผู้ปราชญ์             รักเรียน
ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร                 ผ่ายหน้า
คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน      วนจิต
กลอุทกในตะกร้า                     เปี่ยมล้นฤามี
     2. ปลาร้าพันห่อด้วย           ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา                   คละคลุ้ง
คืนคนหมู่ไปหา                        คบเพื่อน พาลนา
ได้แต่รายร้ายฟุ้ง                      เฟื้องให้เสียพงศ์
     3. ไม้ค้อมมีลูกน้อม             นวยงาม
คือสัปปุรุษสอนตาม                 ง่ายแท้
ไม้ผุดั่งคนทราม                       สอนยาก
ดัดก็หักแหลกแล้                     ห่อนรื้อโดยตาม
     4. เบิกทรัพย์วันละบาทซื้อ   มังสา
นายหนึ่งเลี้ยงพยัคฆา               ไป่อ้วน
สองสามสี่นายมา                      กำกับ กันแฮ
บังทรัพย์สี่ส่วนถ้วน                   บาทสิ้นเสือตาย
     5. อ่อนหวานมานมิตรล้น      เหลือหลาย
หยาบบ่มีเกลอกราย                   เกลื่อนใกล้
ดุจดวงศศิฉาย                           ดาวดาษ  ประดับนา
สุริยส่องดาราไร้                         เพื่อร้อนแรงแสง

13. คำในข้อใดไม่มีที่ใช้เมื่อไม่ได้ซ้ำคำ
     1. ปิดๆเปิดๆ         ซ้ำๆ ซากๆ
     2. สดๆร้อนๆ         ลุ่มๆ ดอนๆ
     3. บ้าๆบอๆ           บูดๆ เบี้ยวๆ
     4. วับๆ แวมๆ        วูบๆ วาบๆ
     5. เนิบๆ นาบๆ      หนุ่มๆสาวๆ



Monday, 20 February 2017

[PDF] ข้อสอบวิชาภาษาไทย ข้อสอบเตรียมทหาร ข้อสอบนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(นายร้อย จปร.) ประจำปี 2534

ข้อสอบเตรียมทหาร.pdf

ดาวน์โหลด ข้อสอบเตรียมทหาร.pdf ข้อสอบนายร้อย จปร.pdf

วิชาภาษาไทย พ.ศ. 2534

ขอร้องว่าอย่าโหลดแล้วเอาไปพิมพ์เพื่อจำหน่ายให้คนอื่นนะครับ แชร์ให้คนอื่น หรือโหลดไปให้คนอื่นดีกว่าครับ
ฝากกดแชร์ คอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ



ผิดพลาดประการใดหรือไม่เหมาะสมฝากแจ้งผม ผ่านทาง คอมเมนต์ หรือ Email นะครับ ผมดำเนินการถอดออกให้ครับ


วิธีการดาวน์โหลดกดที่มุมขวาบนของ PDF นะครับ แล้วมันจะไปยังหน้า เวปแอพ PDF อีกอันหนึ่งแล้วจะมีปุ่มกดให้ดาวน์โหลด(Download)ครับ 

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเป็นลักษณะที่สำคัญของภาษาไทยน้อยที่สุด
     1. เป็นภาษาคำโดด
     2. มีตัวสะกดตามมาตรา
     3. สร้างคำใหม่โดยวิธีประสมคำ
     4. เสียงวรรณยุกต์ทำให้ความหมายคำเปลี่ยน
     5. มีตัวสะกดและอัขรวิธีเป็นของตัวเอง

2. ข้อในข้อใดถูกต้องที่สุด
     1. เครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์ เพื่อให้คนในสังคมเข้าใจและปฏิบัติได้ถูกต้อง
     2. ทุกชาติทุกภาษาจำเป็นต้องมีตัวอักษรเป็นของตนเอง
     3. เสียงในภาษาหมายถึง การออกเสียงในเวลาพูดเท่านั้น
     4. การเคลื่อนไหวทางอวัยวะ ไม่ถือว่าเป็นภาษาเพราะสื่อความไม่ชัดเจน
     5. ภาษาไม่เป็นสื่อความหมายเฉพาะในหมู่มนุษย์ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัตว์ด้วย

3. เหตุใดจึงเรียกภาษาไทยว่าเป็นภาษาคำโดด
     1. มักอยู่โดดๆไม่เกี่ยวข้องกับภาษาอื่น คือ มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
     2. คำทุกคำมีพยางค์เดียว ถ้าเป็นคำหลายพยางค์ต้องเกิดจากการประสมคำ
     3. มีเสียงวรรณยุกต์กำกับ ทำให้แต่ละคำมีเสียงโดดเด่นเป็นพิเศษ
     4. คำโดยทั่วไปมักมีพยางค์เดียว และมีความหมายสำเร็จสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำ
     5. ถูกทุกข้อ

4. พยัญชนะในภาษาไทยทั้ง 44 ตัว มีชื่อเรียกเฉพาะด้วยเหตุใด
     1. เพื่อแบ่งเสียงพยัญชนะ และสระให้โดดเด่น
     2. เพื่อให้เด็กได้ทราบว่าอักษรแต่ละตัวแทนวัตถุหรือสัตว์ใด
     3. เพื่อให้ง่ายแก่การท่องจำ
     4. เพื่อมิให้สับสนเรื่องเสียงที่ซ้ำกัน
     5. ไม่มีข้อใดถูก

5. ภาษาเขมรจัดอยู่ในประเภทของ
     1. ภาษาคำโดด
     2. ภาษามีวิภัตติปัจจัย
     3. ภาษาคำควบมากพยางค์
     4. ภาษาคำต่อเนื่อง
     5. ภาษาคำติดต่อ

6. เครื่องหมายวรรคตอนข้อใดมีรูปดังนี้ $\cdot$ จุด
     1. อัฒภาค
     2. จุลภาค
     3. พินทุ
     4. มหัพภาค
     5. มหรรถสัญญา

7. ข้อใดควรใช้เครื่องหมาย "ๆ" (ไม่ยมก)
     1. ตำรวจไล่กวดจับคนร้าย ผู้ร้ายพยายามขึ้นรถยนต์หนี
     2. ฉันทำการบ้านบ้านคุณยาย
     3. ยายแจ๊วนอนนอนก็เลยหลับไป
     4. เขาไปดูที่ที่ทุ่งภูเขาทอง
     5. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่

8. เครื่องหมายวรรคตอนข้อใด มีรูปดังนี้ "_ _ _"
     1. สัญประกาศ
     2. บุพสัญญา
     3. อัญประกาศ
     4. ยัติภังค์
     5. นขลิขิต

9. พยัญชนะไทยมี 44 ตัว คือ ก ข ค ฯลฯ ฮ เครื่องหมาย ฯลฯ ในข้อความข้างบนนี้อ่านออกเสียงอย่างไร
     1. ละ
     2. ละถึง
     3. และอื่นๆอีกมาก
     4. ต่างๆ
     5. ไปยาลใหญ่

10. ภาษาแบ่งตามลักษณะการใช้เป็น 3 ประเภท คือ ภาษาปาก ภาษากึ่งแบบแผน ภาษาแบบแผน ข้อใดมิใช่ภาษาปาก
     1. จุดไฟหน่อยสิ มือจะตายชัก
     2. สุนีย์ทำหน้าเหม็นบูด
     3. ลัดดาถูกเพื่อนอมเงิน
     4. ทหารเหล่านี้ไม่กินสีกับทหารอีกเหล่าหนึ่ง
     5. ชายคนนั้นเดินขึ้นมาบนสถานีตำรวจด้วยกิริยาของคนที่หมดแรง

11. -13 คำที่ขีดเส้นใต้ใดในประโยคใดสะกดผิด
11.
     1.การบนบาน คือการอ้อนวอนขอให้ช่วยโดยให้สิ่งของตอบแทนเมื่อสำเร็จ
     2. วันนี้ฝนตกเป็นละอองทั้งวัน
     3. สังคมเราทุกวันนี้ ดูจะขาดแคลนเมตตาปราณีลงทุกวัน
     4. เมื่อเธอจะซื้อรถยนต์ต้องคำนึงถึงเครื่องอะไหล่ด้วย
     5. สมชัยได้รับตำแหน่งใหม่นี้เพราะความฉลาดปราดเปรื่องที่เขามีอยู่

12.
     1. โอยัวะ เป็นภาษาจีน แปลว่า กาแฟดำร้อน
     2. ผู้หญิงที่สามีตายและร่ำรวยเรียกว่าแม่ม่ายทรงเครื่อง
     3. มูลนิธิสายใจไทยให้การช่วยเหลือแก่ทหารที่ทุพพลภาพ
     4. วัดมกุฏกษัตริยารามอยู่ใกล้กระทรวงศึกษาธิการ
     5. ผู้ที่เป็นทหารจะสะดวกสะบายเหมือนพลเรือนไม่ได้

13. 
     1. เกล็ดเม็ดแตงโม คือ ขบให้เมล็ดแตกเพื่อกินเนื้อใน
     2. ถ้าเธอจะทำแหวนสักวงหนึ่ง เธอต้องเสียค่ากำเหน็จด้วย
     3. ผู้ที่เป็นมัคคุเทศก์ จะต้องได้รับการอบรมเสียก่อน
     4. จงอธิบายข้อความต่อไปนี้อย่างคร่าวๆ
     5. พลตำรวจตรีเสรี เตมียเวส มีความมุ่งมาตรปรารถนาที่จะปราบคนร้ายให้หมด

14. คำในข้อใดเป็นคำไทยทั้งหมด
     1. คทา ชวา กลาสี
     2. ทะลึ่ง สะอาด กักขัง
     3. ขโมย สลัด เกาเหลา
     4. อิสรภาพ พนวช สะกาว
     5. เก้าอี้ สุกงอม เจียระไน

15. พยัญชนะตัวนำเป็นอักษรสูง หรือ กลาง นำอักษรเดี่ยวจะออกเสียงพยางค์หลังตามวรรณยุกต์ของอักษรสูงและกลางได้แก่
     1. ยุโรป สิริ ตลุง
     2. ตลาด อร่อย ตงิด
     3. ฉลู อุปราช อำมาตย์
     4. ดิลก บุรุษ ประโยชน์
     5. บัญญัติ กนก ตลบ

16. ข้อใดเขียนเสียงอ่านไม่ถูกต้อง
     1. 23.30 น. อ่านว่า   ยี่สิบสามนาฬิกาสามสิบนาที
     2. ทูลเกล้า       "      ทูลเกล้าทูลกระหม่อม
     3. สมรรถภาพ   "      สะ-มัด-ถะ-พาบ
     4. 2,001            "      สองพันหนึ่ง
     5. สรรพสัตว์     "      สัน-พะ-สัด

17. คำอ่านในข้อใดไม่ถูก
     1. กรรมาธิการ /กัน-มา-ทิ-กาน /ท่านแต่งตัวหวังทำกิจ
     2. ถาวรวัตถุ / ถา-วะ-ระ-วัด-ถุ / มั่นคงประสงค์มี
     3. มาตรการ / มาด-ตระ-กาน / เที่ยงตรงคงราคา
     4. ธนบัตร / ทะ-นะ-บัด / แทนเงินตราที่ตราวาง
     5. ผลิตภัณฑ์ / ผะ-หลิด-ตะ-พัน / สินค้าไทยให้จำนง

18. ข้อใดออกเสียงคำได้ถูกต้องตามอักขรวิธี
     1. อุดมศึกษา      อ่านว่า     อุ-ดม-มะ-สึก-สา
     2. ประวัติบุคคล       "          ประ-หวัด-ดิ-บุก-คน
     3. พรหมลิขิต          "           พรม-ลิ-ขิต
     4. เพชรบุรี               "           เพ็ด-บุ-รี
     5. โบราณวัตถุ         "           โบ-ราน-วัด-ถุ

19. สระ ฤ ในข้อใดออกเสียง /ริ/ ทุกคำ
     1. คฤหัสถ์ หฤทัย มฤคี
     2. นฤคหิต อังกฤษ สฤษฏ์
     3. ตฤณมัย พฤกษา นฤบาล
     4. ศฤงคาร อมฤต พฤนท์
     5. กฤษฎีกา ทฤษฎี พฤษภาคม

20. ข้อใดเขียนคำผิดทุกคำ
     1. ผาสุก ปรากฎ สังเกตุ ดอกจัน
     2. เมตตาปรานี ขะมักเขม้น สะอาด แกงบวช
     3. อนุญาติ รสชาด อานิสงฆ์ บิณฑบาตร
     4. อะไหล่ หยักศก ซากศพ กากบาท
     5. สิงห์โต ชมพู่ โอกาส ลาดตระเวณ

21. ข้อใดใช้อักษรไทยถ่ายเสียงคำภาษาอังกฤษได้ถูกต้องทุกคำ
     1. ช็อกโกเลต ปิกนิก คอร์รัปชั่น
     2. เปอร์เซ็นต์ แสตมป์ ฟุตบอลล์
     3. เต๊นท์ แบตเตอรี่ ไอศครีม
     4. โปสเตอร์ เน็คไท แท๊กซี่
     5. เทคโนโลยี โน๊ต เชิ้ต

22. ข้อใดเรียงคำได้ถูกต้องตามลำดับการเรียงคำในพจนานุกรม
     1. หยากไย่ ยุติธรรม ราศี ฤทัย แขวง
     2. ยุติธรรม ราศี หยากไย่ ฤทัย แขวง
     3. แขวง ยุติธรรม ราศี ฤทัย หยากไย่
     4. ฤทัย ราศี หยากไย่ แขวง ยุติธรรม
     5. ราศี ฤทัย หยากไย่ แขวง ยุติธรรม

23. ข้อใดอ่านผิดอักขรวิธี
     1. กรณี         อ่านว่า         กะ-ระ-นี
     2. มกราคม      "               มก-กะ-รา-คม
     3. ปรกติ          "               ปรก-กะ-ติ
     4. คมนาคม     "               คะ-มะ-นา-คม
     5. กรกฎาคม   "               กะ-ระ-กะ-ดา-คม

24. หนังสือที่ผู้อ่าน ควรอ่านให้รู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างน้อยหนึ่งเที่ยวและอ่านซ้ำเฉพาะตอนที่คิดว่าผู้สอนเน้นหรือแนะนำให้อ่านเป็นหนังสือประเภท
     1. ตำราเรียน
     2. หนังสืออ่านในชั้นเรียน
     3. หนังสืออุเทศก์
     4. หนังสืออ้างอิง
     5. หนังสืออ่านนอกชั้นเรียน

25. ทำไมเราจึงควรอ่านหนังสือพิมพ์อย่างน้อยสองฉบับ
     1. ตรวจสอบดูว่า การเสนอข่าวทั่วถึงเหมือนกันหรือไม่
     2. ดูเนื้อหาสาระว่า เล่มใดให้มากกว่ากัน
     3. ตรวจดูว่า การเสนอข่าวมีข้อบกพร่องหรือไม่
     4. ตรวจดูการเข้ารูปเล่ม การให้สีตลอดจนราคา
     5. ถูกทุกข้อ

26. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
     1. กว่าตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายก็หนีไปแล้ว
     2. พายุโซนร้อนคิมมา น้ำจึงท่วมกรุงเทพมหานคร
     3. เขาและเพื่อนจะไปต่างจังหวัดพรุ่งนี้
     4. ถึงกรุงเทพมหานครจะป้องกันอย่างไรน้ำก็ยังท่วมอยู่ดี
     5. เขาได้เช่าแฟลตอยู่กับน้องที่ดินแดง

27. สมชายเป็นคนเอางานเอาการจึงประสบความสำเร็จในชีวิต แต่สุเทพไม่เอาไหนเลยจึงถึงแก่ความล้มเหลวตลอดมา ข้อความนี้มีกี่ประโยค
     1. 2 ประโยค
     2. 3 ประโยค
     3. 4 ประโยค
     4. 5 ประโยค
     5. 6 ประโยค

28. ข้อใดไม่ใช่ประโยคความรวม
     1. เขาเกิดในปีที่ฉันเข้ารับราชการ
     2. มีนักเรียนในห้องนี้หลายคน
     3. คนกินข้าวเป็นประโยค
     4. กวีบางท่านอาจจะใช้ถ้อยคำพื้นๆอันเป็นที่เข้าใจกันได้ดีในหมู่ประชาชน ยิ่งกว่าในหมู่ผู้ที่มีการศึกษาเสียอีก
     5. เป็นการไม่ดีที่เธอแสดงกิริยาเช่นนี้

29. ข้อใดเป็นประโยคความรวมที่มีวิเศษณานุประโยค
     1. ครูดีใจมากเมื่อเราทำได้เหมือนที่ครูคิด
     2. ม้าตัวที่ท่านชอบตายเสียแล้ว
     3. การเงินของพ่อค้าขายของชำฝืดเคืองมาก
     4. อาหารสำหรับนักเรียนเล่นละครมีอยู่ในห้อง
     5. เขาทำให้ฉันกลัวผี

30. ถ้อยคำที่ผู้ไม่ได้พูดตรงไปตรงมา แต่มีชั้นเชิง อาจจะมีความหมายที่คนทั่วไปเข้าใจกันดีอยู่แล้ว หรือต้องคิดจึงจะเข้าใจ หรืออาจไม่เข้าใจก็ได้ คำพูดเช่นนี้จัดเป็น
     1. คำปริศนา
     2. คำสำนวน
     3. คำประชดประชัน
     4. คำสอนใจ
     5. คำผวน

31. คำพูดที่ว่า "นกมีหู หนูมีปีก" น่าจะตรงกับความหมายใด
     1. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
     2. หน้าต่างมีรู ประตูมีช่อง
     3. นายว่าขี้ข้าพลอย
     4. เหยียบเรือสองแคม
     5. ปีกกล้าขาแข็ง

32. สำนวนที่มีความหมายว่า เข้ากันไม่ได้ ไม่ลงรอยกัน ไม่ถูกกัน ไม่ทำกิจกรรมด้วยกัน
     1. ไม่ลงโบสถ์กัน
     2. ศรศิลป์ไม่กินกัน
     3. หมูเขาจะหาม เอาคานเข้ามาสอด
     4. หัวมังกุ ท้ายมังกร
     5. ขมิ้นกับปูน

33. สิ่งที่มีอยู่แล้วแต่ไม่รู้คุณค่า
     1. กิ้งก่าได้ทอง
     2. ตาบอดได้แว่น
     3. นิ้วด้วนได้แหวน
     4. วานรได้แก้ว
     5. หัวล้านได้หวี

34. สำนวน "วัวใครเข้าคอกคนนั้น" ตรงกับความหมายว่า
     1. บุคคลย่อมรักที่อยู่ของตน
     2. วัวย่อมผูกพันกับที่อยู่
     3. ผู้ใดทำกรรมเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
     4. นายย่อมคุ้มครองลูกน้อง
     5. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

35. ข้อใดใช้บุพบทผิด
     1. ฉันเห็นกับตาทีเดียวว่า เขาซื้อผ้าชิ้นนี้กับมือของเขา
     2. ทุกคนควรซื่อสัตว์ต่อหน้าที่ยิ่งกว่าชีวิต
     3. เขาเดินจากหินกองตั้งแต่เช้าจนกระทั่งค่ำก็ยังไม่ถึงพระพุทธบาท
     4. บางครั้งทหารต้องนอนทั้งเครื่องแบบ
     5. เศรษฐีใจบุญมักแจกจ่ายเงินทองสู่คนจน

36. ข้อใดใช้บุพบท "กับ" ถูกต้อง
     1. เขารู้อยู่กับใจ
     2. กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง
     3. เธอไม่ควรเห็นกับหน้าผู้ใด
     4. เขาเสนอเรื่องกับผู้บังคับบัญชา
     5. บุตรกับธิดาเป็นเจ้าภาพ

37. คำว่า "จน" ในข้อใดเป็นคำกิริยา
     1. เราจนก็จริง แต่ไม่เคยทุจริต
     2. ฉันจะรอเขาจนพรุ่งนี้
     3. เกิดเป็นคนอย่ากลัวจน
     4. คนจนไม่จำเป็นต้องเป็นคนชั่ว
     5. เรายอมอยู่อย่างจนๆดีกว่าคดโกงใคร

38. ข้อใดใช้คำตบแต่งผิด
     1. เมื่อพยาบาลตบแต่งบาดแผลให้แล้ว เขาก็เดินทางต่อไป
     2. กระเช้าดอกไม้ของเราเสียรูปไปบ้างแล้ว ช่วยตบแต่งให้หน่อย
     3. หลังจากได้ตบแต่งลูกสาวให้มีเหย้ามีเรือนไปแล้วพ่อแม่ก็หมดกังวล
     4. ท่านให้ช่างช่วยกันตบแต่งบ้านมาสองอาทิตย์แล้ว
     5. สมทรงนั้งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ตบแต่งทรงผมให้เข้ารูปแล้วรีบออกไปจากห้อง เพราะได้ยินเสียงแตรรถยนต์อยู่ที่ถนนหน้าบ้าน

39. จงเลือกคำเชื่อมที่เหมาะสมกับข้อความข้างล่างนี้
".............. ฉันเห็นหนังสือเล่มนี้ ฉัน........สนใจติดตามอ่าน..............ฉันชอบหนังสือประเภทนี้อยู่แล้ว"
     1. พอ...ก็..จริง
     2. เมื่อ...ก็...เพราะ
     3. เวลา...จึง...ด้วย
     4. ตั้งแต่...ก็...เพราะ
     5. เมื่อ...จึง...ที่

40.ไม่ชัดเจนสูญหาย

41. พ่อค้ากักตุนข้าว ข้าวจึงแพง คำว่าจึงเป็นสันธานเชื่อมประโยคความประเภทใด
     1. เชื่อมความที่เป็นเหตุเป็นผลกัน
     2. เชื่อมความที่ขัดแย้งกัน
     3. เชื่อมความที่แบ่งรับรอง
     4. เชื่อมความที่ให้เลือกเอา
     5. เชื่อมความคล้อยตามกัน

42. ข้อความใดใช้คำถูกต้องตามความหมาย
     1. เขารัวกระสุนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งนัด
     2. ข้าพเจ้าได้สร้างสรรค์ความมผิดวัดละเล็กวันละน้อย
     3. บริเวณนี้มีคนอยู่หนาแน่นมาก
     4. คนดูแน่นขนัด เจ้าหน้าที่พยายามกีดกันเท่าไรก็ไม่ได้ผล
     5. นักเรียนต้องไม่ก้าวร้าวสิทธิของกันและกัน

43. ไม่ชัดเจน

44. ไม่ชัดเจน

45. ท้อไยเมื่อใจยังเต้น         เมื่อเส้นเลือดแรงแดงฉาน
ความหวังยังเข้มเต็มมาน      กล้าหาญเถิดสูสู้ไป
ผู้เขียนบทร้อยกรองนี้มีจุดประสงค์ประการใด
     1. ตำหนิ
     2. ปลุกใจ
     3. สั่งสอน
     4. ชักชวน
     5. ปลอบใจ

46. ข้อใดใช้คำ "ต่อรอง" ผิด
     1. การชกมวยคู่นี้มีการต่อรองกันมาก
     2. นักศึกษามักจะขอต่อรองกับอาจารย์ในเรื่องส่งงานช้ากว่ากำหนด
     3. รัฐบาลได้ขอร้องให้ฝ่ายนายจ้างพยายามผ่อนผันให้แก่ลูกจ้างตามข้อต่อรองที่พวกเขาเสนอมา
     4. พรรคพลังธรรมกำลังต่อรองกับพรรคประชาธิปัตย์ที่จะให้ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีมาอีกตำแหน่งหนึ่ง
     5. ผมเกรงว่าจะไม่สามารถต่อรองให้เป็นไปตามความต้องการได้ เพราะฝ่ายเราไม่มีข้อได้เปรียบ

47. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ถูกต้อง
     1. ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กราบทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
     2. ราษฎรจังหวัดนครนายกพากันมาถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเนืองแน่น
     3. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จไปทรงวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
     4. โขนของกรมศิลปากร แสดงหน้าพระพักตร์เพื่อถวายทอดพระเนตร
     5. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดเยี่ยม

          งานสารฤาห่อนเหี้ยน    หดคืน
     คำกล่าวสาธุชนยืน             อย่างนั้น
     ทรชนกล่าวคำฝืน               คำเล่า
     หัวเต่ายาวแล้วสั้น               เล่ห์ลิ้นทรชน

48. โคลงบทนี้เสนอสาระที่ให้ความคิดลึกซึ้งในแง่ใด
     1. ความจงรักภักดี
     2. ความซื่อสัตย์
     3. ความมั่นคง
     4. อนิจจัง
     5. ความยั่งยืน

49.
          สรรพางค์โสภาคย์พร้อม     ธัญลักษณ์
     ภาษิตจิตประจักษ์                   ซื้อพร้อม 
     เป็นสุขโสดตนรัก                     การชอบ  ธรรมนา
     สามสิ่งควรชักน้อม                   จิตให้ยินดี
     
     1. ความงาม คำพูดดี ความมีสุข
     2. ความงาม ความซื่อ ความเป็นโสด
     3. ความงาม ความซื่อ ความมีอิสระ
     4. ความงาม ความซื่อ ความมีสุข
     5. ความงาม คำพูดดี ความเป็นธรรม

50. สำนวนใดมีความหมายตรงกันข้าม
     1. ขี่ช้างจับตั๊กแตน : เกี่ยวแฝกมุงป่า
     2. ตักน้ำรดหัวตอ    : สีซอให้ความฟัง
     3. เนื้่อเต่ายำเต่า     : อัฐยายซื้อขนมยาย
     4. ทำนาบนหลังคน : รีดเลือดกับปู
     5. เข็นครกขึ้นภูเขา : งมเข็มในมหาสมุทร



   
ผิดพลาดประการใดแนะนำเป็นคอมเมนต์ด้วยนะครับ ถ้าดีฝากแชร์ด้วยคับข้อสอบบางข้อสูญหายเนื่องจากเก่าแล้วสำเนาหลายครั้งจนไม่ชัดเจนครับผมพยายามเกาะสุดๆและครับใครมีเพิ่มเติมช่วยแจ้งผมด้วยนะครับ