Processing math: 100%

Disable copy

Saturday, 25 January 2020

เซต แนวความคิดพื้นฐาน ทางพีชคณิต

1. เซต (Set)

หนึ่งในแนวคิดสำคัญทางคณิตศาสตร์นั้นก็คือ เซต (Set) เซตนั้นคือ ตัวเก็บค่า หรือวัตถุหนึ่งๆ เช่น เซต ที่บรรจุค่าของตัวเลข จำนวนนับ จาก 1 ถึง 5 เราสามารถเขียนได้เป็น

\{1,2,3,4,5\}

ตัวเลขที่อยู่ในเซตนั้น จะถูกเรียกว่า องค์ประกอบ (elements) หรือ สมาชิกของ (members) เซต และเราแบ่ง สมาชิกต่างๆในเซตนั้นได้ด้วย คอมมา (commas) ที่อยู่ในวงเล็บปีกกา \{\} ลักษณะแบบนี้ถูกเรียกว่า สัญลักษณ์ของเซต โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะเขียนชื่อของเซต ด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ พิมพ์ใหญ่ เช่น

A=\{1,2,3,4,5\}

เมื่อเรา พูดถึง เซต A เราจะรู้ว่าเราจะอ้างถึงเซต \{1,2,3,4,5\}

ถ้าเราต้องการระบุโดยเฉพาะเจาะจงว่า 2 นั้นเป็น สมาชิกของ เซต A เราสามารถเขียนแสดงได้ดังนี้

2\in A

ถ้าเราต้องการเขียนแสดงว่า 8 ไม่ได้เป็นสมาชิกของเซต A เราจะเขียนได้

8\not\in A


พิจารณาเซต B=\{2,4\} โดยที่แต่ละสมาชิกของเซต B นั้นเป็นสมาชิกของเซต A เช่นกัน เราสามารถกล่าวได้ว่า เซต B เป็น วับเซตของ A และเขียนได้ดังนี้

B\subset A

เมื่อ B  นั้นถูกบรรจุใน เซต A บางครั้งเราสามารถเขียนแสดงได้ด้วยรูปภาพด้านล่างนี้



ในทางกลับกัน เมื่อพิจารณาเซต C=\{1,3,5,7\} โดยที่ 7\in C แต่ 7\not\in A เซต C จึงไม่เป็นซับเซต (Subset) ของ A  โดยเราเขียนแสดงได้ดังนี้

C\not\subset A


ข้อสังเกตุ ความแตกต่างระหว่างการใช้ \in และ \subset คือ เราจะนำ \in มาใช้กับ สมาชิก (element)  และ \subset นั้นนำมาใช้กับ เซต (Set) นั่นเอง

ตัวอย่าง 

พิจาณาเซต F=\{1,3,5,7,9\} G=\{3,5\} และ J=\{3,4,5\} จากข้อความที่กำหนดให้ด้านล่างนี้ ข้อใดเป็นจริง ข้อใดเป็น เท็จ

1. G \subset F

ตอบ เป็นจริง เพราะแต่ละสมาชิก ของ G นั้นเป็นสมาชิกของเซต F

2. J \subset F

ตอบ เป็นเท็จ เพราะ 4 ที่เป้นสมาชิกของเซต J ไม่ได้เป็นสมาชิกของเซต F

3. J \subset J

ตอบ เป็นจริง เพราะแต่ละสมาชิกของเซต J ก็คือสมาชิกของ เซต J

ข้อสังเกตุ  ทุกๆเซตนั้นเป็นสับเซตของตัวมันเอง ดังนั้น ถ้า A เป็นเซต ดังนั้น A\subset A

ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ของเซตนั้นก็คือ เซตว่าง (empty set) โดยเซตดังกล่าวนั้น ไม่ได้บรรจุ สมาชิกใดไว้เลย โดยเซตดังกล่าวน้นถูกแสดงได้โดยการเขียนสัญลักษณฺ ดังนี้ \{\} หรือ \emptyset (\emptyset เป็นอักษรกรีซ phi ออกเสียงได้คือ fee) ตัวอย่างของเซตว่าง คือ เซตที่บรรจุ จำนวนนับ ที่มีค่าระหว่าง 2 ถึง 3 พิจารณา เซต A=\{1,2\}  เราสามารถพูดได้ว่า \emptyset \subset A เพราะ ถ้า \emptyset ไม่ได้เป็นซับเซต ของ A ดังนั้นแสดงว่า ควรจะมีสมาชิกของ \emptyset ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของเซต A แต่ปรากฏว่า \emptyset นั้นไม่มีสมาชิกใดเลย ไม่เป็นสมาชิกของ เซต A  เราจึงพูดได้ว่า เซตว่าง นั้นเป็นสับเซตของทุกเซต 

ดังนั้นเมื่อเราพิจารณาเฉพาะ เซต จำกัด ซึงเป็นเซต ที่มีจำนวนสมาชิกแบบจำกัด แต่เมื่อเซต ของจำนวนนับ ที่เขียนแสดงได้ด้วย

N=\{1,2,3,4,\dots\}

เซต N นั้นเป็นเซต แบบไม่จำกัด เพราะ จำนวนสมาชิกใน เซต ไม่มีขอบเขตจำกัด เราสามารถเขียนแสดงได้ด้วย ตัวเลขเริ่มต้นจำนวนบางส่วน โดยสร้าง รูปแบบ และเขียนต่อท้ายด้วยจุดสามจุด โดยรูปแบบดังกล่าวนั้นจะแสดงต่อเนื่องแบบไม่สิ้นสุด ยกตัวอย่าง เซตไม่จำกัด คือเซตของ จำนวนนับที่เป็น เลขคู่ทั้งหมด คือ :

E =\{2,4,6,8,\dots\}

นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้จุดสามจุด เมื่อ เซนนั้น เป็น เซนจำกัด ได้เมื่อเซตนั้นประกอบด้วย จำนวนสมาชิกจำนวนมาก เช่น เซตของ จำนวนนับ 100 เลขแรก สามารถเขียนได้ด้วย

P=\{1,2,3,4,\dots ,100\}

ตัวอย่าง

พิจารณาเซต  ดังต่อไปนี้ N=\{1,2,3,4,\dots \} E=\{2,4,6,8,\dots\} และ A=\{1,2,3,4,5\} โดยกำหนดข้อความด้านล่างดังต่อไปนี้ จงหาว่า ข้อใด ถูก ข้อใด ผิด

1. E\subset N

ถูก เพราะ สมาชิกแต่ละตัวของ E นั้นเป็นสมาชิกของ N

2. 24 \in E

ถูก เพราะ 24 เป็นจำนวนคู่ และเป็นสมาชิกของ E

3. N\subset A
ผิด เพราะ N นั้นบรรจุ ตัวเลข 6,7,8,\dots แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ A

4. \emptyset \subset A
ถูก เพราะ เซตว่าง เป็นซับเซตของ ทุกเซต

เซต 2 เซตจะเท่ากัน เมื่อ แต่ละเซตนั้น บรรจุ สมาชิกที่เหมือนกัน ทุกประการ เช่น เซต

X=\{2,7,9\} และ Y=\{7,2,7,9\}

เป็นเซต ที่มีค่าเท่ากัน เพราะแต่ละเซตนั้น มีสมาชิกเหมือนกัน คือ 2,7, และ 9 โดย แต่ละอันนั้น จัดเรียงไม่เหมือนกัน และอีก เซตนึงนั้น มีสมาชิกที่ซ้ำกัน (เซต Y) ก็ตาม

สมมติ ว่า เซตของสมาชิก โดยที่  เซต D และ เซต G ทั้งสองเซตนั้น ที่มีสมาชิกเหมือนกัน เซตดังกล่าวจะถูกเรียกว่า อินเตอร์เซกชั่น (intersection) ของ D และ G เขียนสัญลักษณ์ได้โดย

D\cap G

และสำหรับ เซต ที่นำสมาชิกของ เซต D และ เซต G มารวมกันในเซตเดียวกัน เซตนั้นจะถูกเรียกว่า ยูเนียน (union) ของ D และ G จะเขียนสัญลักษณ์ได้ด้วย

D\cup G

ตัวอย่าง เรากำลังมองหางาน และในความคิดของเรานั้น แบ่งงานออกเป็น สอง เซต และ กำหนดเซตที่ หนึ่งว่า M  (สำหรับเงิน Money) โดยจะแสดงเซตของ งานที่จ่ายเงินดี ส่วนอีก หนึ่งเซตนั้น จะเป็นเซตของงาน ที่มีที่ตั้งเหมาะสม แล้วเราจะกำหนดให้เป็นเซต L เมื่อเรามองหางานเรา เราอาจจะต้องการงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่เรากำหนดเป็นเซตไว้ หรืออาจจะต้องการงานตามเงื่อนไขทั้งสองอย่าง  ดังนั้นเซต ที่บรรจุ เงื่อนไขทั้งสองอย่างตามที่เรากำหนดไว้ นั่นก็คือ อินเตอร์เซกชั่น เซต

M\cap L

ตามสัญลักษณ์ด้านบนนั้น คืองานที่ต้องมีคุณสมบัติทั้งสองอย่าง คือ M (เงินดี) และ เซต L (ที่ตั้งดี) แต่เมื่อเรามองค้นหางานดังกล่าวแล้ว เราไม่สามารถมองหางานที่มีคุณสมบัติพร้อมกัน ทั้งสองเซตได้เลย ดังนั้น เราจึงต้องพิจารณา หาเฉพาะเงื่อนไขใดเงื่อนไขนึง หรือทั้งสอง เงื่อนไข ในกรณีนี้ เซต ของงานดังกล่าวที่เราพิจารณา คือ ยูเนียน เซต ทั้งสองเซต M และ L

M\cup L

ตัวอย่างอื่นๆ S=\{1,2,3,5\}  และ T=\{ -2, 0,2,4\}  ดังนั้น อินเตอร์เซกชั่น เซต ของ เซต S และ T คือ S\cap T =\{2\}  และ ยูเนียน เซต ของ เซต S และ T คือ S\cup T คือ S\cup S =\{1,2,3,5,-2,0,2,4\}  =\{-2,0,1,2,3,4,5\} ดังนั้น เราจะเห็นว่า อินเตอร์เซกชั่น เซตนั้น คือ สมาชิก ของ เซตสองเซต ที่มีสมาชิกเหมือนกัน  และ ยูเนียน เซต คือ เซต ของสมาชิก ของทั้งสองเซต มารวมกัน

ตัวอย่าง

พิจารณา เซต A=\{1,3,5,7,9\} ,B=\{1,2,3,4\} ,C=\{2,4,6,8,\dots\} ,D=\{4,8,12,16,\dots\} ,F=\{ ผู้ชายทุกคน \} และ A=\{ ผู้หญิงทุกคน \} หา เซตต่างๆ ตามข้อความด้านล่างนี้

1. F\cup M

F\cup M=\{  คนทุกคน \}

2. F\cap M
F\cap M =\emptyset เพราะทั้งสองเซตนั้นไม่มีสมาชิกที่เหมือนกัน

3. A\cap B
A\cap B \{1,3\}  เพราะว่า สมาชิก 1 และ 3 นั้นเป็นสมาชิกทั้ง เซต A และ เซต B

4. A\cup B
A\cup B=\{1,2,3,4,5,7,9\} โดยการนำสมาชิกทั้งหมดของ เซต A และ เซต B มารวมกัน

5. C\cap D
C\cap D=\{4,8,12,16,\dots \} =D

6. C\cup D
C\cup D=\{2,4,6,8,\dots \} = C

 ระวังข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้ 

ไม่ถูกต้อง       ที่ถูกต้อง
1. 5\subset \{3,4,5\}5\in \{3,4,5\}
2. \{4,5\} \in \{3,4,5\}\{4,5\} \subset \{3,4,5\}
3. เซตว่าง =\{\emptyset \} (เซตนี้เซตที่ บรรจุ สัญลักษณ์
 \emptyset ซึ่งไม่ใช่ เซตว่าง)
เซตว่าง คือ =\emptyset หรือ \{\}

1 comment:

  1. ขอบคุณสำหรับเนื้อหาครับ ฝากเว็บผมด้วยครับ สอบ กพ 64

    ReplyDelete