Disable copy

Showing posts with label ระเบียบการ. Show all posts
Showing posts with label ระเบียบการ. Show all posts

Thursday, 5 October 2017

เนื้อหา วิชา และ เรื่องที่ใช้สอบ เข้าเป็นนายร้อย นักเรียนเตรียมทหาร

     การสอบภาควิชาการ จำนวน 5 วิชา ดังนี้ คือ วิทยาศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาภาษาไทย และสังคมศึกษา โดยแต่ละเหล่าทัพนั้นจะมีเกณฑ์ การให้น้ำหนักคะแนนแต่ละ วิชาไม่เท่ากัน โดยเนื้อจะครอบคลุมความรู้ความรู้ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ 2551 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4)

วิชาคณิตศาสตร์ ใช้เนื้อหาดังนี้
     1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม
          - พื้นที่ผิวและปริมาตร
          - กราฟ
          - ระบบสมการเชิงเส้น
          - ความคล้าย
          - กรณฑ์ที่ 2
          - การแยกตัวประกอบของพหุนาม
          - สมการกำลังสอง
          - พาลาโบล่า
          - อสมการ
          - ความน่าจะเป็น สถิติ
          - ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 
          - การให้เหตุผลเกี่ยวกับรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยม
          - ระบบสมการ
          - วงกลม
          - เศษส่วนของพหุนาม
     2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รายวิชา รายวิชาพื้นฐาน และวิชาเพิ่มเติม (ม. 4) เนื้อดังต่อไปนี้
          - เซต
          - ตรรกศาสตร์เบื้องต้น
          - ระบบจำนวนจริง
          - เลขยกกำลัง
          - การให้เหตุผล
          - ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น
          -  ความสัมพันธ์และฟังก์ชั่น
          - อัตราส่วนตรีโกณมิติ
          - ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์
          - เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย

วิทยาศาสตร์ ใช้เนื้อหาดังนี้
     1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม
     2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4) สำหรับนักรียนที่เน้นวิทยาศาสตร์ รายวิชาพื้นฐานฟิสิกส์ และรายวิชาพื้นฐานเพิ่มเติม ฟิสิกส์ 1
     3. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยาศึกษาตอนปลาย (ม. 4) สำหรับนักเรียนที่เน้นวิทยาศาสตร์ โลก ดาราศาสตร์ และ อวกาศ รายวิชาพื้นโลก ดาราศาสตร์ และ อวกาศ 
     4.  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยาศึกษาตอนปลาย (ม. 4) สำหรับนักเรียนที่เน้นวิทยาศาสตร์ รายวิชาพื้นฐานเคมี  และรายวิชาเพิ่มเติม เคมี 1
     5. ลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยาศึกษาตอนปลาย (ม. 4) สำหรับนักเรียนที่เน้นวิทยาศาสตร์ รายวิชาพื้นฐานชีววิทยา 
          - โครงสร้างของโลก ,โลกและการเปลี่ยนแปลง
          - ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา ,ธรณีประวัติ,เอกภพ,ดาวฤฟษ์,ระบบสุริยะ
          - เทคโนโลยีอวกาศ
          - การเคลื่อนที่
          - สนามของแรง
          - คลื่น
          - กัมมันตภาพรังสี และพลังงานนิวเคลียร์
          - การเคลื่อนที่แนวตรง
          - แรงและกฎการเคลื่อนที่
          - การเคลื่อนที่แบบต่างๆ 
          - งานและพลังงาน
          - โมเมนตั้ม และการชน
          - การเคลื่อนที่แบบหมุน
          - สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น
          - อะตอมและตารางธาตุ
          - พันธะเคมี
          - สมบัติของธาตุและสารประกอบ
          - ปริมาณสัมพันธ์ และของแข็ง ของเหลว แก๊ซ






วิชาภาษาอังกฤษ ใช้เนื้อหาดังนี้
     1. กลุ่มสาระเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
     2. กลุ่มสาระเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4)
          - Grammar
          - Vocabulary
          - Expression
          - Conversation
          - Reading
          - Comprehension 

วิชาภาษาไทยใช้เนื้อหาดังนี้
     1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
     2. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4)
          - การอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด 
          - วรรณคดีและวรรณกรรม

วิชาสังคมศึกษา ใช้เนื้อหาดังนี้
     1. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
     2. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4) เนื้อหาหน้าที่พลเมือง
          - ศาสนา ศีลธรรม และจริยะธรรม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม
          - การการดำเนินชีวิต ในสังคม เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ 
          - ความรู้รอบตัว ข่าว เหตุการณ์ ปัจจุบัน



น้ำหนักคะแนนแต่ละรายวิชาของนายร้อย จปร. (ทหารบก)
วิชาคณิตศาสตร์                               220    คะแนน
วิชาวิทยาศาสตร์                              220    คะแนน
วิชาภาษาอังกฤษ                             150    คะแนน (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30)
วิชาภาษาไทย                                  60       คะแนน
วิชาสังคมศึกษา                                50       คะแนน

น้ำหนักคะแนนแต่ละรายวิชาของนายร้อยตำรวจ
วิชาคณิตศาสตร์                               200    คะแนน
วิชาวิทยาศาสตร์                              200    คะแนน
วิชาภาษาอังกฤษ                             150    คะแนน
วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา        150       คะแนน

น้ำหนักคะแนนแต่ละรายวิชาของนายเรืออากาศฯ
วิชาคณิตศาสตร์                               220    คะแนน
วิชาวิทยาศาสตร์                              220    คะแนน
วิชาภาษาอังกฤษ                             160    คะแนน (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40)
วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา        100     คะแนน


น้ำหนักคะแนนแต่ละรายวิชาของนายเรือ
วิชาคณิตศาสตร์                               220    คะแนน (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40)
วิชาวิทยาศาสตร์                              220    คะแนน
วิชาภาษาอังกฤษ                             160    คะแนน (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40)
วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา        100       คะแนน

อ้างอิงจาก ระเบียบการสมัครของ นายร้อย จปร. นายร้อยตำรวจ นายเรืออากาศฯ นายเรือ


Saturday, 26 August 2017

ระเบียบการและวิธีการสมัคร เข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ภาคปกติ พ.ศ.2559


1.กล่าวนำ
     โรงเรียนช่างฝีมือทหาร เป็นสถานศึกษาสังกัดสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลออสเตรเลีย ภายใต้สนธิสัญญาการป้องกันร่วมกันแห่งเอเซียอาคเนย์ (สปอ.) เพื่อผลิตช่างฝีมือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ให้กองทัพไทย ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2503 เป็นต้นมา ปัจจุบันโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ใช้หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร พ.ศ.2552 ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 ทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลง ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนช่างฝีมือทหาร เป็นช่างฝีมือที่มีความรู้ ความชำนาญในทักษะวิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีระเบียบ วินัย บุคลิกภาพ และเป็นผู้มีปัญญาสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของส่วนราชการ ต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม และตลาดแรงงานสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และสังคม

2.การจัดการศึกษา
     2.1 โรงเรียนช่างฝีมือทหาร จัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระยะเวลาศึกษา 3 ปีหลังจากจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือเทียบเท่า ปัจจุบันเปิดทำการสอนตามหลักสูตร จำนวน 6 สาขาวิชาชีพ คือ
          2.1.1 วิชาชีพช่างซ่อมบ ารุงเครื่องจักรกล (รหัสตัวอักษร ชบ.)
          2.1.2 วิชาชีพช่างเครื่องมือกล (รหัสตัวอักษร ชก.)
          2.1.3 วิชาชีพช่างเชื่อมโลหะ (รหัสตัวอักษร ชล.)
          2.1.4 วิชาชีพช่างยานยนต์ (รหัสตัวอักษร ชย.)
          2.1.5 วิชาชีพช่างไฟฟ้ากำลัง (รหัสตัวอักษร ชฟ.)
          2.1.6 วิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์ (รหัสตัวอักษร ชอ.)
     2.2 การศึกษาในแต่ละสาขาวิชาชีพ
          2.2.1 วิชาชีพช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการอ่านและเขียนแบบซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล แบบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น งานบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลในโรงงาน งานตรวจสอบและปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องจักรกล งานติดตั้งเครื่องจักรกล ระบบปั๊มและท่อ ระบบเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ ประกอบติดตั้งและทดสอบสมรรถนะของเครื่องจักรกล รวมทั้งสร้างชิ้นส่วนบางชนิดตามแบบที่กำหนด
          2.2.2 วิชาชีพช่างเครื่องมือกล ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับงานเครื่องมือกลทุกชนิดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น งานกลึงขึ้นรูป งานกลึงเกลียว งานกลึงโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ งานกลึงด้วยเครื่องกลึงอัตโนมัติงานกัด งานไส งานเจียระไน งานเจาะ งานคว้าน งานอบชุบ งานวัดละเอียด งานเครื่องมือกล ในการผลิตชิ้นส่วนของเครื่องจักรกล งานแม่แบบสำหรับงานผลิตต่าง ๆ ตามแบบที่กำหนด รวมทั้งงานวิเคราะห์หาสาเหตุข้อบกพร่อง และการชำรุดเสียหายของเครื่องจักรกล
          2.2.3 วิชาชีพช่างเชื่อมโลหะ ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับงานเชื่อมอาร์คโลหะด้วยมือ งานเชื่อมโลหะด้วยแก๊ส งานตัดเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแก๊ส งานเชื่อมประสาน งานเชื่อมโลหะต่าง ๆ ด้วยเครื่องเชื่อมอัตโนมัติ งานเชื่อมทิก งานเชื่อมมิก งานเชื่อมพลาสติก งานโลหะแผ่น งานระบบท่อ ภายในอาคาร งานติดตั้งเครื่องสุขภัณฑ์ งานเชื่อมท่อแรงดัน งานผลิตโครงสร้างเหล็ก งานประกอบผลิตภัณฑ์ด้วยโลหะประเภทต่าง ๆงานตรวจสอบแนวเชื่อม งานทดสอบแนวเชื่อม งานบัดกรีแข็ง งานอบชุบโลหะ งานโครงสร้างอะลูมิเนียม รวมทั้งงานเชื่อมและตัดใต้น้ำ
          2.2.4 วิชาชีพช่างยานยนต์ ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการประกอบ ติดตั้ง ทดสอบ ซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เครื่องยนต์ดีเซล ระบบส่งกำลังรถยนต์ เครื่องล่างรถยนต์ ไฟฟ้ารถยนต์ ระบบปรับอากาศในรถยนต์ งานเครื่องยนต์เล็กจักรยานยนต์งานเคาะตัวถังและงานสีรถยนต์งานกู้ซ่อม การขับขี่ยานยนต์และการบำรุงรักษารถยนต์ทุกระบบตามคู่มือ
          2.2.5 วิชาชีพช่างไฟฟ้ากำลัง ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับงานพื้นฐานช่างไฟฟ้ากำลัง งานไฟฟ้าภายในอาคาร งานไฟฟ้าภายนอกอาคาร ไฟฟ้าอุตสาหกรรม ตรวจซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรไฟฟ้า งานซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารและสำนักงาน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หม้อแปลง งานซ่อมบำรุงรักษาและทดสอบมอเตอร์ไฟฟ้า งานควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยโปรแกรม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตรวจและซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบต่าง ๆ งานเครื่องท าความเย็นและปรับอากาศ
          2.2.6 วิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์ ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจซ่อม ปรับแต่ง ติดตั้งตลอดจนบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์ งานสื่อสารโทรคมนาคม งานระบบภาพ ระบบเสียงงานโทรทัศน์วงจรปิด โทรทัศน์สี ขาว-ด า ระบบวีดีทัศน์ งานคอมพิวเตอร์ งานแบบติดตั้ง และทดสอบงานอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรม

๓. คุณสมบัตขิองผู้สมัครเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร
     3.1 สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๓) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่าและมีผลการศึกษาคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ไม่ต่ำกว่ํา 2.00
      3.2 เป็นชายอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ 1 เมษายน ของปีที่จะเข้ารับการศึกษา รับผู้เกิด ตั้งแต่ 1 เมษํายน 2541 ถึงวันที 31 มีนําคม 2544 สำหรับบุคคลทั่วไป ส่วนผู้ที่เป็นเข้าราชการกลาโหม พนักงานราชการ หรือลูกจ้างในสังกัดกระทรวงกลาโหม อายุไม่เกิน 21 ปีบริบูรณ์ (ไม่เกิดก่อน พ.ศ. 2538) และจะต้องมีหนังสือรับรองจากต้นสังกัดอนุญาตให้สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร มาแสดง (การนับอายุให้นับตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร)
     3.3 มีสัญชาติไทย และบิดา มารดา มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
     3.4 มีสุขภาพสมบูรณ์ และไม่มีโรคขัดกับกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
     3.5 มีผู้ปกครอง และผู้ค้ำประกัน ซึ่งสามารถรับผิดชอบในพันธกรณีต่างๆ ตามแบบสัญญาที่ กองบัญชาการกองทัพไทย กำหนด
     3.6 ไม่เคยถูกปลดหรือถูกไล่ออกจากราชการ หรือองค์การใด ๆ
     3.7 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
     3.8 ไม่เป็นผู้พ้นจากความเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยโรงเรียนช่างฝีมือทหาร พ.ศ.2553

4. การสมัครเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร
     4.1 สมัครทํางอินเทอร์เน็ต เปิดรับสมัครตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 ถึง วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 (ไม่เกินเวลา 2400 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559)
ขั้นตอนกํารสมัครทํางอินเทอร์เน็ต
          4.1.1 เข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร (www.mtts.ac.th และ www.mtts-admission.job.thai.com) เลือก “สมัครสอบ”
          4.1.2 อ่านคุณสมบัติของผู้สมัครในแต่ละประเภทให้รอบคอบก่อนทำการสมัคร เนื่องจากเมื่อท่านสมัครแล้วจะสมัครซ้ำ หรือเปลี่ยนประเภทการสมัครอีกไม่ได้
          4.1.3 เลือกประเภทการสมัครซึ่งมี 3 ประเภทคือ
               4.1.3.1 สมัครภาคปกติค่าสมัคร 400 บาท ค่าธรรมเนียมธนาคาร 30 บาท รวม 430 บาท
               4.1.3.2 สมัครภาคสมทบ ค่าสมัคร 400 บาท ค่าธรรมเนียมธนาคาร 30 บาท รวม 430 บาท
               4.1.3.3 สมัครทั้งสองภาค ค่าสมัคร 800 บาท ค่าธรรมเนียมธนาคาร 30 บาท รวม 830 บาท
          4.1.4 กรอกรายละเอียดในหน้าสมัครสอบให้ครบทุกช่อง
          4.1.5 กรณีที่ท่านมีสิทฺธิพิเศษตามกำหนดในระเบียบการ ให้ท่านเลือกประเภทสิทธิพิเศษแล้วส่งหลักฐาน (เอกสารสิทธิพิเศษฉบับจริง) ไปที่โรงเรียนช่างฝีมือทหารก่อนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 เมื่อทางโรงเรียนได้รับหลักฐานแล้วจะแจ้งให้ผู้สมัครทราบผ่านทางเว็บไซต์ของโรงเรียน
          4.1.6 พิมพ์ใบสมัครไปท าการชำระเงินค่าสมัคร (สามารถชำระเงินค่าสมัครได้ไม่เกินวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559) ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
          4.1.7 ตรวจสอบสถานะการชำระเงินที่เว็บไซต์ของโรงเรียนช่างฝีมือทหาร (www.mtts.ac.th และ www.mtts-admission.job.thai.com)
          4.1.8 เมื่อตรวจสอบสถานะการชำระเงินผ่านเรียบร้อยแล้วให้พิมพ์บัตรสอบได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ถึง 5 มีนาคม 2559
          4.1.9 ติดรูปผู้สมัครที่บัตรสอบในจุดที่กำหนด โดยใช้รูปถ่ายปัจจุบันขนาด 1 นิ้วครึ่ง (ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน) ในชุดนักเรียน หรือชุดสุภาพ ไม่สวมหมวก ไม่ยิ้ม ไม่ใส่แว่นตา
          4.1.10 น่ําบัตรสอบ พร้อมบัตรประชาชนมาแสดงในวันสอบ (ผู้สมัครต้องมีหลักฐานทั้งสองอย่าง หากขาดอย่ํางใดอย่างหนึ่ง ท่ํานอาจถูกตัดสิทธิ์ในกํารสอบ)
     4.2 สมัครด้วยตนเอง (โรงเรียนช่างฝีมือทหารให้บริการสมัครผ่านอินเทอร์เน็ต ในโรงเรียนช่างฝีมือทหาร) ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 ถึง วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 (เวลา 0800 น. ถึง 1600 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
หมายเหตุ    1.ข้อสอบที่ใช้ใช้ปัญหาสอบชุดเดียวกัน และสอบ วัน เวลา เดียวกัน ในวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 เวลา 1300 น. – 16000 น. พร้อมกัน ทุกภาค
                    2. ระเบียบการไม่มีจำหน่าย ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ของโรงเรียนช่างฝีมือทหารwww.mtts.ac.th และ www.mtts-admission.job.thai.com ตั้งแต่ ธันวาคม 2558เป็นต้นไป
     4.3 กรณีลืม หรือทำบัตรสอบหายให้ผู้สมัครติดต่อ กองอำนวยการ ณ สถานที่สอบโดยนำรูปถ่ายตามข้อ 4.1.9 มาด้วยเพื่อขอทำบัตรใหม่
     4.4 หลักฐานขอรับสิทธิพิเศษ
          4.4.1 หนังสือรับรอง แสดงว่าสอบวิชาทหารได้ ตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร ของกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ปี 1,2 และ 3 เพิ่มให้ร้อยละ 2,3 และ 4 ของคะแนนรวมภาควิชาการ ตามลำดับ (แบบหนังสือ ตํามผนวก ก)
          4.4.2 หนังสือรับรอง แสดงว่าเป็นบุตรของทหาร ข้าราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งได้กระทำหน้าที่ ในระหว่างเวลาที่มีการรบ หรือการสงคราม หรือมีการปราบปรามจลาจล หรือในระหว่างที่มีพระบรมราชโองการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีสิทธิได้นับเวลาราชการเป็นทวีคูณ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพิ่มให้ร้อยละ 5 ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
          4.4.3 หนังสือรับรอง แสดงว่าเป็นบุตรของทหาร ข้าราชการ หรือลูกจ้าง ซึ่งต้องประสบอันตรายถึงทุพพลภาพ ในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษ หรือได้รับเงินค่าทำขวัญ หรือบำเหน็จพิเศษตามข้อบังคับ หรือระเบียบของทางราชการ หรือบุตรของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ หรือเหรียญกล้าหาญ เพิ่มให้ร้อยละ 10 ของคะแนนรวมทั้งสิ้น
          4.4.4 การได้รับเพิ่มคะแนนพิเศษตามข้อ 4.4.2 และ 4.4.3 ให้คิดเฉพาะในกรณีที่ได้เพิ่มคะแนนมากแต่อย่างเดียว และถ้าเป็นผู้ที่สอบวิชาทหารได้ตามข้อ 4.4.1 ด้วย ก็ให้เพิ่มคะแนนขึ้นอีกตามเกณฑ์ของชั้นปีที่สอบได้
          4.4.5 หนังสือรับรองขอรับสิทธิพิเศษ และคะแนนพิเศษ เอกสารสิทธิพิเศษตามข้อ 4.4 (ถ้ามี) ให้ส่งถึง โรงเรียนช่างฝีมือทหาร (แผนกธุรการ) ซอยพหลโยธิน 30 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. 10900 ภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 (ดูตราประทับของไปรษณีย์ เป็นสำคัญ) และวงเล็บมุมซองด้านล่างขวาว่า“สิทธิพิเศษ” หรือส่ง ณ สถานที่รับสมัครในวันสมัครด้วยตนเอง (แบบหนังสือรับรองขอรับสิทธิพิเศษและคะแนนพิเศษ ตํามผนวก ข)

5. การสอบคัดเลือกและการประกาศผลสอบ
     5.1 สอบภาควิชาการ
          5.1.1 วิชาที่สอบคัดเลือกมีการสอบวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทยและสังคมศึกษา ภายในขอบเขตของหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นของกระทรวงศึกษาธิการ (ม.1 – ม.3) ในวันเสาร์ที 5 มีนําคม 2559 เวลา 1300 น. ถึง 1600 น. ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี จ.นนทบุรี ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัย มีรายละเอียดดังนี้
               5.1.1.1 วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม           100  คะแนน
               5.1.1.2 วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม          100  คะแนน
               5.1.1.3 วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม         100  คะแนน
               5.1.1.4 วิชาภาษาไทย คะแนนเต็ม              50   คะแนน
               5.1.1.5 วิชาสังคมศึกษา คะแนนเต็ม            50   คะแนน
                                                                          รวม  400  คะแนน
     5.1.2 การปฏิบัติในการสอบ และข้อห้ามต่าง ๆ
          5.1.2.1 ผู้สมัครสอบนำเครื่องเขียนมาเอง โดยใช้ดินสอด่ํา ขนาด 2 บี ขึ้นไปและยางลบดินสอ เพื่อใช้ในการสอบ และไม่อนุญาตให้นำกระดาษทด หรือกระดาษร่าง โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆเข้าไปในห้องสอบ
           5.1.2.2 ให้ไปถึงสถานที สอบก่อนเวลา 1130 น. เพื่อตรวจสอบผังห้องสอบ และที่นั่งสอบ รวมทั้งรอฟังคำสั่งหรือคำชี้แจงอื่น ๆ จากกรรมการ
          5.1.2.3 ถ้าไปถึงสถานที่สอบสายเกินเวลาเริ่มสอบจะต้องพบกรรมการอำนวยการก่อน ถ้าสายเกิน 30 นาที ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ
          5.1.2.4 ผู้สมัครสอบจะต้อง น่ําบัตรประจ่ําตัวสอบ และบัตรประจ่ําตัวประชาชนติดตัวมาทุกครั้งที่เข้าสอบ มิฉะนั้น จะไม่มีสิทธิ์เข้าสอบ
          5.1.2.5 ผู้สมัครสอบจะต้องแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียน หรือแต่งกายสุภาพ
          5.1.2.6 ให้ผู้สมัครสอบ รอ ณ บริเวณหน้าห้องสอบ เพื่อรอฟังคำสั่งกรรมการ
          5.1.2.7 เมื่อเข้าห้องสอบแล้วให้นั่งตามหมายเลขที่กำหนด
          5.1.2.8 วางบัตรประจำตัวสอบและบัตรประจำตัวประชาชนไว้มุมโต๊ะด้านขวา
          5.1.2.9 นั่งกอดอกฟังคำสั่งกรรมการ
          5.1.2.10 หากมีข้อสงสัยใด ๆ ให้ยกมือสอบถามกรรมการ
          5.1.2.11 ต้องอยู่ในห้องสอบจนกว่าจะหมดเวลาสอบ
          5.1.2.12 ห้ามนำเอกสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าห้องสอบนอกจากเครื่องเขียนที่กำหนด
          5.1.2.13 ห้ามเปิดปัญหาสอบจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากกรรมการ
          5.1.2.14 ห้ามขีดเขียนหรือทำเครื่องหมายใดๆ นอกจากที่กำหนดไว้ลงในใบตอบปัญหาสอบ
          5.1.2.15 ห้ามพูดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรรมการ
          5.1.2.16 ห้ามเคลื่อนย้ายหรือเลื่อนโต๊ะสอบ
          5.1.2.17 ห้ามลุกจากที่นั่งสอบถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากกรรมการ
          5.1.2.18 ห้ามเอียงตัว เหลียวหลัง เคาะโต๊ะ ส่งสัญญาณ หรือกระทำการใด ๆอันส่อจะทุจริตในการสอบ
          5.1.2.19 ห้ามนำใบตอบปัญหาสอบและปัญหาสอบออกจากห้องสอบ
          5.1.2.20 เมื่อจะส่งใบตอบปัญหาสอบ ให้ยกมือแจ้งกรรมการ เพื่อเก็บใบตอบปัญหาสอบ และปัญหาสอบ แล้วนั่งรอจนกว่าจะหมดเวลาสอบ
          5.1.2.21 เมื่อได้รับคำสั่งให้ออกจากห้องสอบให้ออกจากห้องสอบและลงจากอาคาร
     5.2 การประกาศผลสอบภาควิชาการ ประกาศผลสอบผ่านเว็บไซต์ www.mtts.ac.th และ www.mtts-admission.job.thai.com ในวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2559 เวลา 1400 น. และประกาศผลสอบอย่างเป็นทางการ เรียงตามลำดับหมายเลขสมัครสอบ ในวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2559 เวลา 0900 น. ณ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร ผู้ที่สอบผ่านภาควิชาการ ศึกษารายละเอียดจากเว็บไซต์ เพื่อทราบกำหนดการตรวจร่างกาย การสอบพลศึกษา และสัมภาษณ์ ท่วงทีวาจา (การดูประกาศผลสอบผู้สมัครไม่ต้องมาด้วยตนเองก็ได้)
     5.3 กํารตรวจร่างกาย การสอบพลศึกษา และสัมภาษณ์ ท่วงทีวําจํา (วันที่ 14,15,16 มีนาคม 2559) ผู้สอบผ่านภาควิชาการรายงานตัว พร้อมจ่ายเงินค่าตรวจร่างกาย จ่ํานวน 600 บาท ในวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2559 เวลา 0800 น. ถึง 0900 น. และตรวจเลือด, ปัสสาวะ,เอกซเรย์ ในวันเดียวกัน เวลา 0900 น. ถึง 1200 น. ณ อาคารกองพยาบาล โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สำหรับการสอบ พลศึกษา สัมภาษณ์ท่วงทีวาจาและตรวจร่างกาย จะด าเนินการในวันอังคารที่ ๑๕ และวันพุธที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๐๐ น.
ถึง 1600 น. (เตรียมกางเกงกีฬาขาสั้นมาด้วย) รายละเอียดอื่น ๆ มีดังนี้
          5.3.1 การสอบพลศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย จำนวน 4 สถานีประกอบด้วย ดึงข้อ ลุกนั่งใน 2 นาที ดันพื้นใน 2 นาทีและวิ่ง 800 เมตร (ตามผนวก ค)
          5.3.2 การสอบสัมภาษณ์ ท่วงทีวาจา เป็นการตรวจสอบบุคลิกภาพ ท่วงทีวาจา ไหวพริบปฏิภาณ ความสมบูรณ์ และความสมส่วนของร่างกาย
          5.3.3 การตรวจร่างกาย เป็นการตรวจรูปร่างลักษณะ และความสมบูรณ์ของร่างกาย รวมทั้งการตรวจโรคที่ขัดต่อการศึกษา และการเข้ารับราชการทหาร (ตํามผนวก ง)
หมายเหตุ: - ผู้สมัครที ผ่านการสอบภาควิชําการแล้ว ขาดสอบพลศึกษํา และสัมภาษณ์ท่วงทีวาจาหรือขาดการตรวจร่างกาย ให้ถือว่ําผู้สมัครสอบสละสิทธิ์
                 - ในวันที 15,16 มีนําคม 2559 แบ่งผู้สอบผ่านภาควิชาการเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งในแต่ละวันจะมีการสอบพลศึกษา สัมภาษณ์ท่วงทีวาจา จ่ํานวน 1 กลุ่ม และตรวจร่างกาย จ่ํานวน 1 กลุ่ม การแบ่งกลุ่มจะแจ้งให้ทราบ ในวันประกาศผลสอบภาควิชาการ ผ่านทํางเว็บไซต์
     5.4 การประกาศผลสอบรอบสุดท้าย
          5.4.1 จะประกาศผลสอบเรียงตามลำดับหมายเลขสมัครสอบ อย่างเป็นทางการใน วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2559 เวลา 1400 น. ณ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
          5.4.2 ผู้สอบได้และผู้สอบได้สำรองนำบัตรประจำตัวสอบและบัตรประจำตัวประชาชนไปแสดง และลงชื่อรับทราบต่อคณะกรรมการในวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2559 เวลา 1500 น. พร้อมรับเอกสารทำสัญญาณ ณ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร และฟังคำชี้แจงในการทำสัญญา เวลา 1500 น. หากพ้นกำหนดถือว่าสละสิทธิ์ (หากผู้ที่สอบได้หรือผู้ที่สอบได้สำรองไปดำเนินการด้วยตนเองไม่ได้ ให้ผู้แทนหรือผู้ปกครองนำบัตรประจำตัวสอบไปดำเนินการแทนได้)
          5.4.3 ผู้ที่สอบได้สำรองจะประกาศผลเรียงตามลำดับคะแนน หากมีบุคคลตัวจริงสละสิทธิ์จะเรียกบุคคลสำรองตามที่ประกาศไว้เข้าทดแทนตามลำดับ โดยให้ฟังผลการเรียกเพื่อมาแทนผู้สละสิทธิ์ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2549 เวลา 1600 น. ณ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
     5.5 สถานที สอบ (ผนวก จ)
          5.5.1 การสอบภาควิชาการ สอบที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
          5.5.2 การตรวจร่างกาย ตรวจที่อาคารกองพยาบาล โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
          5.5.3 การสอบสัมภาษณ์ สอบที่อาคารแผนกวิชาพื้นฐาน โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
          5.5.4 การสอบพลศึกษา สอบที่อาคารกรมนักเรียน โรงเรียนช่างฝีมือทหาร

6. การทำสัญญา
     ผู้สมัครสอบที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร จะต้องทำสัญญา ณ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร ในวันพุธที่ 23 และวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2559 เวลา 0800 น. ถึง 1600 น. และบุคคลสำรองทำสัญญาในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2559 เวลา 0800 น. ถึง 1600 น. โดยให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
     6.1 ผู้สอบได้ให้นำผู้ปกครอง และผู้ค้ำประกันผู้ปกครอง พร้อมเอกสารที่ ทางราชการกำหนดและค่าใช้จ่ํายตามที่ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร แจ้งให้ทราบ มาด่ําเนินการทำสัญญา ในวัน เวลา ที่ ก่ําหนด
     6.2 คุณสมบัติของผู้ปกครอง
          6.2.1 ต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ มีสัญชาติไทย และยินยอมรับผู้สมัครสอบไว้ในปกครองโดยแท้จริง และยอมรับพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้
          6.2.2 ผู้ปกครองที่สมรสแล้ว ต้องมีหนังสือยินยอมของคู่สมรสให้ทำสัญญายอมรับพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้
          6.2.3 ผู้ปกครองต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวของทางราชการ มาแสดงในวันทำสัญญา และถ่ายสำเนา หน้า - หลัง ไปด้วย จำนวน 2 ฉบับ
     6.3 คุณสมบัติของผู้ค้ำประกันผู้ปกครอง
          6.3.1 ต้องเป็นนายทหารสัญญาบัตรประจำการ หรือข้าราชการพลเรือน ตั้งแต่ ระดับ 3 ขึ้นไป
          6.3.2 ผู้ค้ำประกันผู้ปกครองที่สมรสแล้ว ต้องมีหนังสือยินยอมของคู่สมรสให้ทำสัญญายอมรับพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้(วันทำสัญญาไม่ต้องนำคู่สมรสไปด้วยก็ได้)
          6.3.3 ผู้ค้ำประกันผู้ปกครองต้องนำบัตรประจำตัวข้าราชการไปแสดงในวันทำสัญญาและถ่ายสำเนา หน้า - หลัง ไปด้วย จำนวน 2 ฉบับ
     6.4 ผู้ปกครองและผู้ค้ำประกันผู้ปกครองจะเป็นบุคคลเดียวกันไม่ได้
     6.5 พระภิกษุหรือนักบวชในศาสนาใด ๆ เป็นผู้ปกครอง หรือ ผู้ค้ำประกันผู้ปกครอง ไม่ได้

7.การหมดสิทธิ์สอบ
     7.1 ผู้หมดสิทธิ์ในการสมัครสอบเข้าเป็นนักเรียนช่ํางฝีมือทหาร คือ
          7.1.1 ผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติตามข้อ 3 และมีขนาดพิกัด ความสมบูรณ์ของร่างกายไม่ได้ตามเกณฑ์
(ตํามผนวก ง)
          7.1.2 หลักฐานเอกสารตามข้อ 4.4 อย่างใดอย่างหนึ่งไม่สมบูรณ์ หรือเป็นเท็จ
     7.2 ผู้หมดสิทธิ์ ในการสอบคัดเลือก คือ
          7.2.1 ผู้ที่ทุจริตและ/หรือ ส่อเจตนาทุจริตในเวลาสอบ
          7.2.2 ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามต่าง ๆ ดังนี้.
               7.2.2.1 เข้าสอบช้ากว่ากำหนดเวลาที่เริ่มต้นสอบ เกิน 30 นาที หมดสิทธิ์เข้าห้องสอบ
               7.2.2.2 ห้ามนำเอกสาร อุปกรณ์การคำนวณ และเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าห้องสอบ
               7.2.2.3 ห้ามเปิดปัญหาสอบจนกว่าจะได้รับคำสั่ง
               7.2.2.4 ห้ามพูดคุย หรือปรึกษา หากสงสัยให้ยกมือถามกรรมการเท่านั้น
               7.2.2.5 ห้ามออกจากห้องสอบก่อนเวลาที่คณะกรรมการคุมสอบกำหนด
               7.2.2.6 ห้ามนำปัญหาสอบออกนอกห้องสอบ
     7.3 ผู้หมดสิทธิ์ในการท่ําสัญญาเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร คือ
          7.3.1 ผู้ซึ่งปรากฏภายหลังว่าต้องหมดสิทธิ์ตามข้อ 7.1 หรือ 7.2
          7.3.2 ผู้ที่ผู้ปกครอง หรือผู้ค้ำประกันผู้ปกครอง ขาดคุณสมบัติตามข้อ 6.2 ถึง 6.5
          7.3.3 ผู้ที่ไม่ไปทำสัญญาตามวัน เวลา ที่กำหนด
     7.4 ผู้หมดสิทธิ์ในการเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร คือผู้ที่ ไม่ไปรายงานตัวเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร ตามก่ําหนด
     7.5 การหมดสิทธิ์ภายหลังเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหารแล้ว คือการที่ รร.ชท. สามารถตรวจสอบและพบว่ามีการด่ําเนินการทางทุจริตหรือร่วมด่ําเนินการทางทุจริตในการเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร ทุกกรณี

8. การรายงานตัวเข้าเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร
     รายงานตัวที่โรงเรียนช่างฝีมือทหารในวันอาทิตย์ ที่ 24 เมษายน 2559 เวลา 0900 น.(หากไม่มารายงานตัวตามที่กำหนดถือว่าสละสิทธิ์ตามข้อ 7.4) และให้ผู้สอบได้นำเอกสารและสิ่งของเครื่องใช้มาด้วย (จะแจ้งให้ทราบในวันประกาศผลสอบรอบสุดท้าย)

9. ค่าใช้จ่ายในการเข้าศึกษาในโรงเรียนช่างฝีมือทหาร
     การศึกษาในโรงเรียนช่างฝีมือทหาร นักเรียนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายขั้นต้น โดยประมาณ ดังต่อไปนี้
     ชั้นปีที่ 1 ภาคต้น ประมาณ         46680  บาท
                   ภาคปลาย ประมาณ     1350    บาท
     ชั้นปีที่ 2 ภาคต้น ประมาณ         2950    บาท
                   ภาคปลาย ประมาณ     1350    บาท
     ชั้นปีที่ 3 ภาคต้น ประมาณ         2950    บาท
                   ภาคปลาย ประมาณ     1350   บาท


10. สิทธิและเงื่อนไขของการเป็นนักเรียนช่างฝีมือทหาร
     นักเรียนช่างฝีมือทหาร เป็นนักเรียนประเภทอยู่ประจำ มีสิทธิและเงื่อนไขระหว่างศึกษาและเมื่อสำเร็จการศึกษา ดังต่อไปนี้
     10.1 ระหว่างเข้ารับการศึกษา
          10.1.1 เรียน วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 0800 น. ถึง 1630 น.
          10.1.2 ทางราชการจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้วันละ 111 บาท
          10.1.3 ทางราชการจ่ายค่าวัสดุฝึกให้
          10.1.4 มีที่พักในโรงเรียนให้ระหว่างศึกษา
          10.1.5 ให้การรักษาพยาบาล ฟรี
     10.2 เมื่อส่ําเร็จการศึกษา
          10.2.1 จะได้รับคุณวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
          10.2.2 ทางราชการจะบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศกองบัญชาการกองทัพไทย หรือส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม อัตราเงินเดือนขั้นต้นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
          10.2.3 สามารถเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัย มหาวิทยาลัย หรือสถาบันอื่น ๆ ได้โดยขออนุญาตจากหน่วยงานต้นสังกัดที่รับราชการ

11. ข้อผูกพันกับทางราชการ
     11.1 ในระหว่างศึกษา ถ้าลาออก หรือถูกปลดออก ผู้ปกครอง หรือผู้ค้ำประกันผู้ปกครอง จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ทางราชการตามสัญญา
     11.2 เมื่อสำเร็จการศึกษา ผู้สมัครสอบจะต้องรับราชการ หรือทำงานในส่วนราชการหรือองค์การในสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือตามความเห็นชอบของกระทรวงกลาโหม ไม่น้อยกว่า 2 เท่าของเวลาที่ศึกษาถ้าลาออก หรือต้องออกจากราชการก่อนกำหนดนี้ ผู้ปกครองหรือผู้ค้ำประกัน จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ทางราชการตามสัญญา ที่กองบัญชาการกองทัพไทย กำหนด

แหล่งที่มาโรงเรียนช่างฝีมือทหาร โรงเรียนช่างฝีมือทหาร

Friday, 25 August 2017

ระเบียบการทั่วไปและการสมัครคัดเลือกบุคคลพลเรือน เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารใหนส่วนของกองทัพอากาศ (โรงเรียนนายเรืออากาศ)ประจำปี 2560

ระเบียบการทั่วไป และวิธีการสมัครสอบคัดเลือกบุคคล
เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ)
ปีการศึกษา 2560

     โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย มีภารกิจในการให้การศึกษาแก่นักเรียนเตรียมทหารในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีระยะเวลาการศึกษา 2 ปี ให้มีความรู้ความสามารถในวิชาการทหารเบื้องต้น ปลูกฝังคุณสมบัติการเป็นผู้นำอุปนิสัย อัธยาศัย กำลังใจ ให้เข้มแข็งมั่นคงตลอดจนเสริมสร้างพลานามัย เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน มีพื้นฐานความรู้ คุณสมบัติ และสมรรถภาพร่างกายอันเหมาะสมที่จะเข้ารับการศึกษาต่อใน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ต่อไป

     โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เป็นสถาบันผลิตนายทหารสัญญาบัตรหลักของกองทัพอากาศ ที่เพียบพร้อมด้วยความรู้ ความสามารถด้านวิชาการในระดับอุดมศึกษา ความรู้ความสามารถในวิชาทหาร คุณลักษณะผู้นำทหารและคุณธรรม จริยธรรม มีความสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบ เทิดทูนและยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลักสูตรการศึกษาเป็นไปตามที่ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชกำหนด มีสาขาวิชาให้เลือกศึกษา ได้แก่ สาขาวิศวกรรมอากาศยาน สาขาวิศวกรรมเครื่องกล สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สาขาวิศวกรรมโยธา สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ สาขาคอมพิวเตอร์ และสาขาวัสดุศาสตร์ทางการทหารและอากาศยาน ตามที่กองทัพอากาศกำหนดในแต่ละปีการศึกษา เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต หรือ วิทยาศาสตรบัณฑิต ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตรให้มียศเป็น ว่าที่เรืออากาศตรี และกองทัพอากาศจะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการในหน่วยงานต่าง ๆของกองทัพอากาศต่อไป

     นักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ) ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร จะได้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้

ขณะเป็นนักเรียนนายเรืออากาศ
     1. ไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้านการศึกษา อาหาร เครื่องแต่งกาย ที่พัก ได้รับเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนประจำ
จำนวน 3070 - 5340 บาท ตามชั้นปีและหน้าที่บังคับบัญชา
     2. นักเรียนชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการศึกษาดีมีสิทธิ์สอบคัดเลือกไปศึกษาในสถาบันทหารหรือ
มหาวิทยาลัยต่างประเทศ ปีละ 9 - 10 ทุน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ สาธารณรัฐเกาหลี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เครือรัฐออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และราชอาณาจักรสเปน
     3. ตามหลักสูตรโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช กำหนดให้ นักเรียนทุกคนได้ฝึกเดินอากาศและดูงาน ณ ต่างประเทศ รวมทั้งฝึกบินกับเครื่องบินฝึกของกองทัพอากาศ
     4. มีโครงการแลกเปลี่ยนดูงานระหว่างโรงเรียนทหารต่างประเทศ

เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
     1. ได้รับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตหรือวิทยาศาสตรบัณฑิต
     2.ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งยศเป็นว่าที่เรืออากาศตรี รับเงินเดือน และเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว รวม 15,000 บาท
     3. ผู้ที่จบหลักสูตรด้านการบินจากโรงเรียนการบิน จะได้รับเงินค่าฝ่าอันตรายเดือนละ 13,200
บาท และเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บังคับอากาศยาน เดือนละ 15,000 บาท เพิ่มจากเงินเดือนประจำ
     4. ผู้ที่มีการศึกษาดี มีสิทธิ์สมัครสอบคัดเลือกทุนกองทัพอากาศ เพื่อไปศึกษาในระดับปริญญา
โท และเอก ณ ต่างประเทศ
     1. จำนวนที่รับ
     รับจากบุคคลทั่วไป เพศชาย จำนวน 105 คน
     
     2.คุณสมบัติของผู้สมัคร
     2.1 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า
     2.2 อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี และไม่เกิน 18 ปี ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหารการนับอายุให้นับตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร 
     2.3 มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด และบิดา มารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดา
เป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
     2.4 มีอวัยวะ รูปร่าง ลักษณะท่าทาง และขนาดของร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหาร ไม่เป็นโรค
ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร และตามที่ทางราชการกำหนด รายละเอียดตามผนวกท้ายระเบียบการทั่วไป และวิธีสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ) 
     2.5 เป็นชายโสด ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศหรือติดต่อได้เสียกับหญิงถึงขั้นที่จะถือว่า
เป็นภรรยา
     2.6 เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี มีอุดมการณ์ เลื่อมใสในระบอบ
การปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีผู้ปกครองดูแลรับผิดชอบ
     2.7 ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
     2.8 ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับ
ความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
     2.9 ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกให้ออกจากโรงเรียนเพราะความผิดหรือถูกถอนทะเบียนจากความเป็น
นักเรียนเตรียมทหาร
     2.10 ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติด หรือสิ่งเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
     2.11 บิดามารดาและผู้ปกครองเป็นผู้มีอาชีพอันชอบธรรมหรือมีหลักฐาน
     2.12 เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้ว
     2.13 ต้องมีผู้ปกครองหรือผู้ค้ำประกัน ซึ่งสามารถรับรองข้อความและพันธกรณี ตามที่กองบัญชาการ
กองทัพไทยกำหนด
     2.14 ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับองค์กรของรัฐบาลหรือเอกชน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
หมายเหตุ คุณสมบัติและลักษณะดังกล่าวในข้อ 2.1-2.14 นี้หากปรากฏว่าเป็นความเท็จขึ้นภายหลังจากที่รับเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้ว จะต้องพ้นจากการเป็นนักเรียนเตรียมทหารทันที
     3. วิธีการสมัครและค่าธรรมเนียมในการสอบ
     3.1 สมัครสอบได้ทางเว็บไซต์ http://admission.nkrafa.ac.th หรือ http://www.nkrafa.ac.th
ไม่เว้นวันหยุดราชการ ยกเว้นวันสุดท้ายที่เปิดรับสมัคร รับสมัครถึงเวลา 16:00 น.
     3.2 ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน 350 บาท (สามร้อยห้าสิบบาทถ้วน) การชำระค่าธรรมเนียม
ในการสมัครสอบ ดำเนินการโดยนำแบบฟอร์มการชำระเงิน พร้อมค่าสมัครสอบจำนวน ๓๕๐ บาท ไปชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ทั้งนี้การสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อ ผู้สมัครสอบได้ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้วเท่านั้น และจะไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้สมัครสอบที่ชำระเงินแล้วสามารถตรวจสอบรายชื่อ สถานที่สอบ และพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ ได้ที่เว็บไซต์ http://admission.rtafa.ac.th หรือ http://www.nkrafa.ac.th ตามวันและเวลาที่จะประกาศให้ทราบ
     3.3 ค่าตรวจร่างกาย ตามที่คณะกรรมการแพทย์กำหนด และในกรณีที่แพทย์ต้องตรวจพิเศษนอกเหนือจากการตรวจปกติ ผู้รับการตรวจจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
     3.4 ค่าพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ มีอัตราค่าธรรมเนียม รายละ 100 บาท (หนึ่งร้อยบาทถ้วน)

     4. การยื่นหลักฐานการสมัครสอบและคะแนนเพิ่มพิเศษ
     4.1 ผู้สมัครสอบที่สอบผ่านภาควิชาการจะต้องยื่นหลักฐานให้แก่เจ้าหน้าที่ของ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ในวันที่ประกาศผลสอบและรายงานตัว ดังนี้
          4.1.1 สำเนาเอกสารแสดงผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือเทียบเท่าหรือใบรับรอง
ผลการศึกษา (ปพ.7) ที่แสดงว่ากำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4(ตัวอย่างตามผนวก ข) จำนวน 1 ฉบับ
          4.1.2 สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัคร บิดาและมารดาผู้ให้กำเนิด คนละ 1 ฉบับ หากผู้สมัครมีบิดา มารดา ที่มีชื่อหรือนามสกุลในหลักฐานต่าง ๆ ไม่ตรงกัน ต้องแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน (โดยแก้ไขที่อำเภอ/เขต)พร้อมแนบสำเนาหลักฐานการแก้ไขมาแสดงด้วย
          4.1.3 เอกสารการเปลี่ยน ชื่อ – สกุล ของผู้สมัครและบิดา มารดา (ถ้ามี)
          4.1.4 กรณีที่บิดาหรือมารดาถึงแก่กรรม และไม่มีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้าน ให้นำหลักฐาน
ใบมรณบัตรและหนังสือที่ทางราชการออกให้ เพื่อแสดงสัญชาติของบิดา มารดา
          4.1.5 กรณีที่ ปู่ - ย่า หรือ ตา - ยาย ของผู้สมัครไม่มีสัญชาติไทย ให้นำหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้มาแสดง
               4.1.5.1 สูติบัตรของบิดาหรือมารดาของผู้สมัคร
               4.1.5.2 หนังสือรับรองที่ออกโดยนายทะเบียนท้องที่ของสำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอท้องที่ที่ตนมีชี่ออยู่ในทะเบียนบ้านในท้องที่นั้นรับรองว่าบิดา หรือมารดาของผู้สมัครมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
          4.1.6 หลักฐานการได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ
หมายเหตุ สำเนาเอกสารทุกฉบับให้รับรองสำเนาถูกต้องมาให้เรียบร้อยและลงวันที่กำกับด้วย
     4.2 ผู้สมัครสอบที่มีสิทธิ์ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ
          4.2.1 ผู้ที่สอบวิชาการ ได้ตามหลักสูตรการศึกษาวิชาทหารของกระทรวงกลาโหมชั้นปีที่ 1
เพิ่มให้ร้อยละ 3 ของคะแนนเต็ม
          4.2.2 บุตรของข้าราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีเวลา
รับราชการดังต่อไปนี้ ให้ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษตามลำดับ ดังนี้
               4.2.2.1 รับราชการไม่น้อยกว่า 15 ปี หรือได้รับพระราชทานเหรียญจักรมาลาเพิ่มให้ร้อยละ 4 ของคะแนนเต็ม
               4.2.2.2 รับราชการไม่น้อยกว่า 10 ปี เพิ่มให้ ร้อยละ 3 ของคะแนนเต็ม
               4.2.2.3 รับราชการไม่น้อยกว่า 5 ปี เพิ่มให้ ร้อยละ 2 ของคะแนนเต็ม
การนับเวลารับราชการดังกล่าว ให้นับตั้งแต่วันเข้ารับราชการ ถึงวันสุดท้ายของวันรับสมัคร
ในปีนั้น ๆ
          4.2.3 ผู้ที่เป็นบุตรของทหาร-ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานราชการหรือ
ลูกจ้าง ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหาร ระหว่างที่มีการรบหรือการสงครามหรือมีการปราบจลาจลหรือในระหว่างที่มีพระบรมราชโองการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในระหว่างเวลาที่สั่งให้เป็นนักดำเรือดำน้ า หรือปฏิบัติหน้าที่สำรวจจัดทำหลักเขตแดนระหว่างประเทศ ซึ่งมีสิทธินับเวลาราชการเป็นทวีคูณตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพิ่มให้ร้อยละ 5 ของคะแนนเต็ม
          พลเรือน หรือ ผู้ที่เป็นบุตรของพลเรือนซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหารในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอก และภายในประเทศ เพิ่มให้ร้อยละ
5 ของคะแนนเต็ม
          4.2.4 ผู้ที่เป็นบุตรของทหาร - ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานราชการหรือ
ลูกจ้าง ซึ่งต้องประสบภัยอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ปกติ หรือถูกประทุษร้าย เพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือได้รับเงินค่าทำขวัญตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยคนงาน หรือได้รับบำเหน็จพิเศษ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง เพิ่มให้ร้อยละ 6 ของคะแนนเต็ม
          ผู้ที่เป็นบุตรของทหาร - ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานราชการหรือลูกจ้าง ซึ่งต้องประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ทางยุทธการหรือถูกประทุษร้ายเพราะกระทำการตามหน้าที่ ตามข้อ 4.2.3 หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือได้รับเงินค่าทำขวัญตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยคนงาน หรือได้รับบำเหน็จพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง หรือบุตรของผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดีหรือเหรียญหรือเข็มกล้าหาญ เพิ่มให้ร้อยละ 10 ของคะแนนเต็ม
          4.2.5 บุตรของทหาร -ตำรวจ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามโจรผู้ร้ายจนถึงแก่ทุพพลภาพ
หรือถึงแก่ชีวิต หรือผู้ที่ได้ช่วยเหลือราชการในการปราบปรามโจรผู้ร้ายจนถึงแก่ทุพพลภาพหรือถึงแก่ชีวิต ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มให้ร้อยละ 10 ของคะแนนเต็ม
          การเพิ่มคะแนนพิเศษ ตามข้อ 4.2.1, 4.2.2 และ 4.2.3 ให้เพิ่มคะแนนพิเศษหลังจากสอบผ่านภาควิชาการการเพิ่มคะแนนพิเศษ ตามข้อ 4.2.4 และ 4.2.5 ให้เพิ่มคะแนนพิเศษในการสอบทุกรอบ โดยส่งเอกสารทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน มาที่ หัวหน้ากองกำลังพล กองบัญชาการ โรงเรียนนายเรือ
อากาศนวมินทกษัตริยาธิราช 171/1 ถ.พหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพ ฯ 10220
(คะแนนเพิ่มพิเศษ นตท.(ทอ.)) ภายในวันที่ 28 ก.พ.60 (โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ) หากเกินกำหนดถือว่าสละสิทธิ์ในการขอรับคะแนนเพิ่มพิเศษการเพิ่มคะแนนพิเศษ ตามข้อ 4.2.1, 4.2.2, 4.2.3, 4.2.4 และ 4.2.5 ให้เพิ่มเฉพาะกรณีที่ได้คะแนนมากที่สุดแต่เพียงอย่างเดียว (รายละเอียดตามผนวก ค) ผู้สมัครกรอกข้อความในแบบขอรับสิทธิ์คะแนนเพิ่มพิเศษพร้อมเอกสารที่ขอใช้สิทธิ์คะแนนเพิ่มพิเศษ โดยผู้สมัครหรือผู้ปกครองต้องลงนามรับรองสำเนาเอกสารหลักฐาน ยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่รับสมัครโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชในวันที่ประกาศผลสอบและรายงานตัว
     
     ๕. การตรวจสอบสถานที่สอบ
     ผู้สมัครสามารถตรวจสอบสถานที่สอบ อาคารและห้องสอบได้ทางเว็บไซต์http://admission.nkrafa.ac.th หรือ http://www.nkrafa.ac.th ตั้งแต่วันที่ ๑ มี.ค.๖๐ เป็นต้นไป

     6. การสอบคัดเลือก
    
    6.1 การสอบภาควิชาการ (คะแนนรวม 700 คะแนน)
     6.1.1 ปัญหาสอบ ฯ ครอบคลุมความรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของกระทรวงศึกษาธิการ แบ่งเป็นสองชุดวิชา ดังนี้
          6.1.1.1 ชุดวิชาที่ 1 ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที ประกอบด้วย
          6.1.1.1 (1) วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 160 คะแนน โดยกำหนดเกณฑ์ผ่าน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 และมีขอบข่ายของเนื้อหาที่ใช้ในการออกปัญหาสอบ ฯ ดังนี้
          -  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4: Grammar, Vocabulary, Expression, Conversation และ Reading Comprehension
          6.1.1.1 (2) วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา คะแนนเต็ม 100 คะแนนโดยมีขอบข่ายของเนื้อหาที่ใช้ในการออกปัญหาสอบ ฯ ดังนี้
          - กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4: สาระที่ 1 การอ่าน, สาระที่ 2 การเขียน, สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพูด,สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย และสาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
          - กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมระดับมัธยมศึกษาตอนต้น: ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม, หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม, เศรษฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์; และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย: หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม, เศรษฐศาสตร์และประวัติศาสตร์; รวมทั้งความรู้รอบตัว ข่าว และเหตุการณ์ปัจจุบัน
          6.1.1.2 ชุดวิชาที่ 2 ใช้เวลาสอบ 2 ชั่วโมง 30 นาที ประกอบด้วย
          6.1.1.2 (1) วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม 220 คะแนน โดยมีขอบข่ายของเนื้อหาที่ใช้ในการออกปัญหาสอบ ฯ ดังนี้
          - กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 :โครงสร้างของโลก, โลกและการเปลี่ยนแปลง, ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา, ธรณีประวัติ, เอกภพ, ดาวฤกษ์ระบบสุริยะ, เทคโนโลยีอวกาศ, การเคลื่อนที่, สนามของแรง, คลื่น, กัมมันตภาพรังสีและพลังงานนิวเคลียร์, การเคลื่อนที่แนวตรง, แรงและกฎการเคลื่อนที่, การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ, งานและพลังงาน, โมเมนตั้มและการชน, การเคลื่อนที่แบบหมุน, สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น, อะตอมและตารางธาตุ, พันธะเคมี, สมบัติของธาตุและสารประกอบ,ปริมาณสัมพันธ์และของแข็ง ของเหลว แก๊ส
          6.1.1.2 (2) วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม 220 คะแนน โดยกำหนดเกณฑ์ผ่าน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 และมีขอบข่ายของเนื้อหาที่ใช้ในการออกปัญหาสอบ ฯ ดังนี้
          - กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 :พื้นที่ผิวและปริมาตร, กราฟ, ระบบสมการเชิงเส้น, ความคล้าย, กรณฑ์ที่สอง, การแยกตัวประกอบของพหุนาม,สมการกำลังสอง,พาราโบลา, อสมการ, ความน่าจะเป็น, สถิติ, ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์, การให้เหตุผล
เกี่ยวกับรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยม, ระบบสมการ, วงกลม, และเศษส่วนของพหุนาม และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 : เซต, การให้เหตุผล, จำนวนจริง, ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน, ตรรกศาสตร์เบื้องต้น, ระบบจำนวนจริง,ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น, เลขยกกำลัง, อัตราส่วนตรีโกณมิติ, ความน่าจะเป็น, ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์,ฟังก์ชัน, เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตัดกรวย
     6.1.2 การปฏิบัติในการสอบภาควิชาการ
          6.1.2.1 แต่งกายชุดนักเรียน หรือชุดเครื่องแบบสถาบัน
          6.1.2.2 หลักฐานที่ต้องนำมาในวันสอบภาควิชาการ
          6.1.2.2 (1) บัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่ โดยบัตรดังกล่าวนั้นต้องไม่หมดอายุ และจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ชัดเจน ทั้งรูปถ่ายและตัวอักษร
          6.1.2.2 (2) บัตรประจำตัวสอบที่ปรากฏรูปถ่ายของผู้สมัครสอบ ระบุเลขลำดับสมัคร รหัสประจำตัวสอบ ชื่อ ชื่อสกุล วัน เดือน ปีเกิด เลขประจำตัวประชาชนและลงลายมือชื่อ จึงจะถือว่าสมบูรณ์
          6.1.2.3 อุปกรณ์ที่อนุญาตให้ผู้สมัครสอบนำเข้าห้องสอบ ได้แก่ ดินสอดำชนิด 2B ขึ้นไป สำหรับระบายกระดาษคำตอบ ยางลบดินสอ และผู้สมัครสอบต้องนำบัตรตามข้อ 6.1.2.2 มาในวันสอบภาควิชาการ หากไม่นำบัตรทั้ง 2 มาแสดง จะไม่อนุญาตให้เข้าสอบ
          6.1.2.4 การขาดสอบภาควิชาการในชุดวิชาใดวิชาหนึ่ง จะถือว่าผู้สมัครสละสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก
          6.1.2.5 การออกจากห้องสอบ สามารถออกได้เมื่อหมดเวลาสอบแล้วเท่านั้น
          6.1.2.6 ผู้สมัครสอบต้องปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำของกรรมการคุมสอบโดยเคร่งครัด
     6.1.3 เกณฑ์การพิจารณาการสอบภาควิชาการจัดเรียงลำดับตามคะแนนรวมภาควิชาการจากมากไปหาน้อย ถ้าคะแนนรวมเท่ากันให้เปรียบเทียบคะแนนวิชาวิทยาศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษาตามลำดับ






     
     6.2 การสอบรอบสอง (คะแนนรวม 300 คะแนน)
ผู้เข้าสอบรอบสอง คือผู้ที่มีรายชื่อสอบผ่านภาควิชาการและรายงานตัวเข้าสอบรอบสองไว้แล้วเท่านั้น โดยต้องเข้ารับการสอบทุกรายการดังต่อไปนี้
     6.2.1 การทดสอบความถนัดและวิภาววิสัย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
          6.2.1.1 การทดสอบความถนัดและวิภาววิสัย (เวลา 1300 - 1700 น.)
          6.2.1.2 การทดสอบความถนัด เป็นการทดสอบสมรรถภาพหรือศักยภาพพื้นฐานทางสมองของบุคคลที่มีอยู่ ซึ่งได้รับการสร้างสมมาจากประสบการณ์และการฝึกตนเองเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นทักษะ
ที่พร้อมจะปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างเข้ารับการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          6.2.13 การทดสอบวิภาววิสัย เป็นการทดสอบสภาวะทางนามธรรมของบุคคลทางด้านคุณธรรม จริยธรรม เช่น ทัศนคติ ความสนใจ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความยุติธรรม ความกล้าหาญ ฯลฯ
          6.2.1.4 การปฏิบัติในการทดสอบความถนัดและวิภาววิสัย
          6.2.1.4 (1) แต่งกายชุดนักเรียน หรือชุดเครื่องแบบสถาบัน พร้อมนำบัตรประจำตัวสอบมาด้วย
          6.2.1.4 ( 2) ใช้ดินสอดำชนิด 2B ขึ้นไป และไม่อนุญาตให้นำกระดาษทดกระดาษร่าง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าไปในห้องสอบ
     6.2.2 การสอบพลศึกษา (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
          6.2.2.1 ผู้เข้าสอบรอบสองต้องเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย จำนวน 8
สถานี โดยต้องทำการสอบให้ครบทุกสถานี ถ้าขาดสอบสถานีใดสถานีหนึ่งถือว่าสอบตกให้คัดออก โดยแบ่งเวลาการสอบเป็น 2 ช่วงดังนี้ ภาคเช้าตั้งแต่เวลา 0830 - 1200 น. จะทำการสอบสถานีที่ 1-7 และภาคบ่ายตั้งแต่เวลา 1300 - 1600 น. จะทำการสอบสถานีที่ 8
          สถานีที่ 1 นั่งงอตัว อุปกรณ์การสอบ มีกล่องไม้สูงจากพื้น 30 เซนติเมตร ติดไม้วัดยาว 60 เซนติเมตรด้านบนของกล่องในแนวนอน ให้ผู้เข้าสอบนั่งเหยียดขาตรง เท้าทั้งสองตั้งฉากกับพื้นและชิด
กัน ฝ่าเท้าจรดแกนกลางของที่ตั้งเครื่องวัด แขนทั้งสองข้างเหยียดตรงขนานกับพื้น ฝ่ามือวางอยู่บนเครื่องวัดพร้อมแล้วให้ก้มตัวเลื่อนฝ่ามือไปข้างหน้าตามแนวเครื่องวัด จนไม่สามารถก้มตัวเลื่อนฝ่ามือปลายนิ้วมือต่อไปได้เข่าเหยียดตรงตลอดเวลา ห้ามโยกตัวหรืองอตัวแรง ๆ
          สถานีที่ 2 ยืนกระโดดไกล ให้ผู้เข้าสอบยืนบนจุดที่กำหนดบนเครื่องวัด ปลายเท้าทั้งสองชิดเส้น เริ่มเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างไปด้านหลังพร้อมกับย่อตัวลงหาจังหวะ เมื่อได้จังหวะแล้วให้เหวี่ยงแขนทั้ง
สองข้างไปข้างหน้า พร้อมกระโดดด้วยเท้าทั้งสองไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด
          สถานีที่ 3 ลุกนั่ง 30 วินาที ให้ผู้เข้าสอบนอนหงายบนเบาะ ฝ่ามือทั้งสองสอดประสานกันที่ท้ายทอย กางศอกทั้งสองข้างสัมผัสกับเบาะ เข่าทั้งสองงอตั้งเป็นมุมฉาก เท้าทั้งสองวางห่างกันพอประมาณ ผู้ช่วยคุกเข่าอยู่ปลายเท้าของผู้ทดสอบ โดยใช้มือทั้งสองกดข้อเท้าของผู้เข้าสอบไว้ให้ส้นเท้าติดพื้นเมื่อพร้อมแล้วกรรมการให้สัญญาณเสียงนกหวีด ผู้เข้าสอบลุกขึ้นสู่ท่านั่งพร้อมกับก้มศีรษะลงระหว่างเข่าทั้งสองให้แขนทั้งสองช่วงศอกด้านในสัมผัสกับเข่าด้านนอกแล้วกลับนอนลงสู่ท่าเดิม ศอกทั้งสองข้างสัมผัสกับเบาะ ท าเช่นนี้ติดต่อกันภายใน 30 วินาที ขณะปฏิบัติฝ่ามือต้องประสานที่ท้ายทอยตลอดเวลา และขณะที่ลุกขึ้นสู่ท่านั่งห้ามเอียงตัวไปมา
          สถานีที่ 4 วิ่งเก็บของ เป็นการวิ่งบนทางเรียบระยะทาง 10 เมตร เส้นเริ่มต้นและเส้นปลายทางมีวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ที่วงกลมปลายทางมีไม้ 20 ท่อน (ขนาด 5 x 0.5 x 10 ซม.)
วางตรงจุดกำหนดกลางวงกลมปลายทาง ผู้เข้ารับการทดสอบวางเท้าข้างหนึ่งข้างใดอยู่ภายในวงกลมเริ่มต้นเมื่อได้ยินสัญญาณเสียงนกหวีดให้ผู้เข้ารับการสอบวิ่งจากวงกลมเริ่มต้นไปยังวงกลมปลายทางหยิบไม้ท่อนที่ 1วิ่งกลับมาวางไว้ในวงกลมเริ่มต้น ต้องวางไม้ให้อยู่ในวงกลม ห้ามโยนท่อนไม้เข้าวงกลม แล้ววิ่งกลับไปเก็บไม้ท่อนที่ 2 วิ่งกลับมาผ่านวงกลมเริ่มต้น (โดยไม่ต้องวางท่อนไม้ท่อนที่ 2 ในวงกลมเริ่มต้น)
          สถานีที่ 5 วิ่งระยะทาง 50 เมตร ผู้เข้าสอบเตรียมพร้อมที่เส้นปล่อยตัวเมื่อได้ยินสัญญาณเสียงนกหวีดให้ออกวิ่งไปยังเส้นชัย โดยต้องวิ่งในช่องวิ่งของตนเองตามที่กำหนดไว้จนถึงเส้นชัย
          สถานีที่ 6 ดึงข้อ ท่าเตรียม ให้ผู้เข้าสอบจับราวเดี่ยวด้วยมือทั้ง 2 ข้างแบบคว่ำมือพร้อมห้อยตัวลงจนแขน ลำตัว และขาเหยียดตรง พร้อมแล้วให้ผู้เข้าสอบงอแขนดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือราวทำติดต่อกันไปให้มากครั้งที่สุด ห้ามแกว่งตัวหรือเตะขา หรือหยุดพักระหว่างครั้งนานเกินกว่า 3-4 วินาที
          สถานีที่ 7 วิ่งระยะ 1000 เมตร ผู้เข้าสอบเตรียมพร้อมที่เส้นปล่อยตัว เมื่อได้ยินสัญญาณเสียงนกหวีดให้ออกวิ่งไปยังเส้นชัยตามที่คณะกรรมการกำหนดไว้
          สถานีที่ 8 ว่ายน้ำ 50 เมตร ให้ผู้เข้าสอบพร้อมที่จุดปล่อยตัวขอบสระด้านเริ่มต้นเมื่อได้ยินสัญญาณเสียงนกหวีดปล่อยตัว ให้ออกตัวว่ายน้ำไปยังเส้นชัย
               6.2.2.2 การปฏิบัติในการสอบพลศึกษา
               6.2.2.2 (1) ผู้เข้ารับการสอบเตรียมชุดพลศึกษา เสื้อกีฬาสีขาว กางเกงกีฬาขาสั้น รองเท้าผ้าใบ พร้อมน าบัตรประจ าตัวสอบมาด้วย
               6.2.2.2 (2) เตรียมกางเกงว่ายน้ำและอุปกรณ์ (เช่น หมวก แว่นตา)สำหรับการสอบว่ายน้ า (ห้ามใช้กางเกงชั้นในแทนกางเกงว่ายน้ำ)
     6.2.3 การสอบสัมภาษณ์ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
          6.2.3.1 การสอบสัมภาษณ์เป็นการพิจารณาลักษณะ รูปร่าง ท่าทาง ความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจ ว่องไว ปฏิภาณไหวพริบ และสภาพจิตใจ ตลอดจนคุณสมบัติความเหมาะสมที่จะเป็น
นายทหารสัญญาบัตร
          6.2.3.2 การปฏิบัติในการสอบสัมภาษณ์ ผู้เข้ารับการสอบแต่งกายชุดนักเรียนหรือชุดเครื่องแบบสถาบัน พร้อมนำบัตรประจำตัวสอบมาด้วย
     6.2.4 การตรวจร่างกายและทดสอบองค์ประกอบหลักของบุคคล (ผลการตรวจ ผ่าน/ ไม่ผ่าน)
          6.2.4.1 การตรวจร่างกาย
          6.2.4.1 (1) ผู้เข้าสอบรอบสองรายงานตัวที่ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เวลา 0700 น. เพื่อเดินทางไปตรวจร่างกายที่สถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศโดยรถยนต์โดยสารของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช (ผู้ปกครองหรือญาติ รอรับที่สถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ หลังจากตรวจร่างกายและทดสอบองค์ประกอบหลักของบุคคลเสร็จแล้ว)
          6.2.4.1 (2) การตรวจร่างกายเป็นการพิจารณา รูปร่าง ลักษณะการเจริญเติบโตของร่างกายสมส่วนกับอายุ สุขภาพสมบูรณ์ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการบรรจุเข้ารับราชการตามการกำหนดลักษณะความสมบูรณ์ของร่างกายและโรคที่ขัดต่อการเข้ารับศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ) (ตามผนวก ก)
          6.2.4.1 (3) ผลการตรวจร่างกาย คือความเห็นของคณะอนุกรรมการตรวจร่างกายทางแพทย์ที่กองทัพอากาศแต่งตั้งขึ้น เพื่อตรวจร่างกายของผู้เข้ารับการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ) ถือเป็นเด็ดขาด ไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายที่ผู้เข้าสอบรอบสองไปตรวจร่างกายจากสถานพยาบาลอื่น ๆ
          6.2.4.1 (4) ชำระค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 880 บาท ในวันตรวจร่างกาย กรณีที่แพทย์ต้องการตรวจพิเศษหรือเพิ่มเติม ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
          6.2.4.2 การทดสอบองค์ประกอบหลักของบุคคล (รายละเอียดตามผนวก ง)
          6.2.4.3 การปฏิบัติในการตรวจร่างกายและทดสอบองค์ประกอบหลักของบุคคล
          6.2.4.3 (1) ช่วงเช้าของวันตรวจร่างกายให้รับประทานอาหารตามปกติ(งดหวานจัด)
          6.2.4.3 (2) ก่อนการตรวจร่างกาย งดรับประทานยากระตุ้นก าลัง ยาลดน้ำหนัก หรือยาแก้ไอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความผิดปกติทางหัวใจ และหลอดเลือดได้
          6.2.4.3 (3) ห้ามใส่ Contact - lens มาตรวจสายตา และห้ามใช้ Contact –lensชนิดกดกระจกตาเพื่อปรับสายตาก่อนมาตรวจ
          6.2.4.3 (4) แต่งกายชุดนักเรียนหรือเครื่องแบบสถาบัน พร้อมนำบัตรประจำตัวสอบมาด้วย
          6.2.4.3 (5) ดินสอด าชนิด 2B ขึ้นไป

     7. การประกาศผลการสอบคัดเลือก (วัน เวลา สถานที่ ตามกำหนดการ ฯ)
     7.1 การประกาศผลการสอบภาควิชาการและรายงานตัว
     7.1.1 ประกาศผลการสอบภาควิชาการทาง Internet และระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ดังนี้
          7.1.1.1 เว็บไซต์สมัครสอบ นตท.(ในส่วนของ ทอ.) (http://admission.nkrafa.ac.th)
          7.1.1.2 เว็บไซต์โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช (http://www.nkrafa.ac.th)
          7.1.1.3 ระบบข้อความตอบรับทางโทรศัพท์(SMS) พิมพ์ AIR เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลข
ประจ าตัวสอบ ส่ง SMS มายังหมายเลข 4847821 (ค่าบริการครั้งละ 6 บาททั่วประเทศ)
     7.1.2 ประกาศผลสอบภาควิชาการเป็นทางการและรายงานตัว
     7.1.3 ผู้สมัครที่มีรายชื่อในประกาศผลสอบภาควิชาการตามข้อ 7.1.2 ต้องมารายงานตัวตั้งแต่เวลา 0800-1000 น.
     7.2 การประกาศผลการสอบรอบสองและรายงานตัว
     7.2.1 ประกาศผลการสอบรอบสองไม่เป็นทางการ เหมือนข้อ 7.1.1
     7.2.2 ประกาศผลสอบรอบสองเป็นทางการและรายงานตัว (วันและเวลา ตามกำหนดการ)
          7.2.2.1 ติดประกาศผลสอบรอบสองเป็นทางการ บริเวณ อาคารรณนภากาศโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ตั้งแต่เวลา 0700  น.
          7.2.2.2 ผู้เข้ารับการสอบที่มีชื่อเป็นบุคคลตัวจริงและสำรอง พร้อมรายงานตัวด้วยตนเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่รับรายงานตัวของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ตั้งแต่เวลา 0800 น.เพื่อรักษาสิทธิ์
          7.2.2.3  รับเอกสารและรับฟังคำชี้แจงจากโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อรับทราบสิทธิ์และข้อปฏิบัติของบุคคลตัวจริงและสำรองหมายเหตุ ผู้เข้าสอบรอบสองที่มีชื่อในประกาศผลสอบรอบสองมากกว่า1 โรงเรียน ต้องเลือกรายงานตัวรักษาสิทธิ์เป็นบุคคลตัวจริงหรือสำรอง เพียงโรงเรียนเดียวเท่านั้น

     8. การหมดสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก
     8.1 เข้าห้องสอบภาควิชาการหรือการสอบรอบสองช้ากว่าเวลาที่เริ่มต้นสอบหรือทดสอบเกิน 20 นาทีจะไม่อนุญาตให้เข้าสอบ หรือทดสอบถือว่าหมดสิทธิ์ในการสอบ
     8.2 ขาดสอบภาควิชาการชุดวิชาใดวิชาหนึ่ง
     8.3 ขาดการทดสอบความถนัดและวิภาววิสัย หรือขาดการสอบพลศึกษา หรือขาดการสอบสัมภาษณ์
หรือขาดการตรวจร่างกาย และทดสอบองค์ประกอบหลักของบุคคลรายการใดรายการหนึ่งหรือทุกรายการ
     8.4 ทุจริตในการสอบ หรือช่วยเหลือการทุจริตการสอบ
     8.4.1 พูดหรือติดต่อสื่อสารในลักษณะต่าง ๆ กับผู้สมัครสอบคนอื่น
     8.4.2 ลุกจากที่นั่ง ชะโงกหน้า เหลียวมองกระดาษค าตอบของผู้สมัครสอบคนอื่น
     8.4.3 วางกระดาษคำตอบในลักษณะเกื้อกูลกับผู้สมัครสอบข้างเคียง
     8.4.4 ลักลอบนำเอกสารหรืออุปกรณ์ต้องห้าม ได้แก่ กระดาษทด กระดาษร่าง ตำรำ เครื่องคำนวณเลข เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เครื่องประดับ นาฬิกาข้อมือ สร้อยคอ
แหวน ตุ้มหู อุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะทุกชนิด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่กรรมการคุมสอบพิจารณาไม่อนุญาตให้นำเข้า
     8.4.5 เขียนข้อความใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบไว้ตามร่างกาย บนชุดที่สวมใส่หรือบนอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วนำเข้าห้องสอบ
     8.4.6 ลอกคำตอบจากผู้อื่น หรือให้ผู้อื่นลอกคำตอบ ทั้งนี้ไม่ว่าจะถูกตรวจพบในระหว่างการสอบ หรือภายหลังการสอบเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม
     8.4.7 ทำข้อสอบให้ผู้อื่น หรือให้ผู้อื่นทำข้อสอบให้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะถูกตรวจพบในระหว่างการสอบ หรือภายหลังการสอบเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม
     8.4.8 แลกกระดาษคำตอบกับผู้อื่น
     8.4.9 ปัญหาสอบเป็นลิขสิทธิ์ของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ห้ามผู้สมัครสอบคัดลอกหรือนำออกนอกห้องสอบเป็นอันขาด ต้องส่งคืนให้ครบทุกหน้าและทุกแผ่น ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดทางกฎหมาย และถือว่าหมดสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก
     8.4.10 กรณีที่ผู้สมัครสอบได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องสอบชั่วคราว เพื่อทำกิจจาเป็นส่วนตัว จะต้องไม่ทำการใด ๆ เกี่ยวข้องกับการสอบที่กำลังดำเนินอยู่เป็นอันขาด หากฝ่าฝืนให้ถือว่าเป็นการกระทำการทุจริตในการสอบ
     8.4.11 หากอุปกรณ์การสอบของผู้สมัครสอบ ตก หรือปลิวไปจากโต๊ะสอบ ให้ผู้สมัครสอบที่เป็นเจ้าของ ขออนุญาตเก็บ กรรมการคุมสอบจะต้องเป็นผู้เก็บให้ ห้ามผู้สมัครสอบคนอื่นเก็บโดยเด็ดขาด การฝ่าฝืนถือเป็นการกระทำการทุจริตในการสอบ
     8.4.12 พฤติกรรมอื่น ๆ ที่กรรมการคุมสอบพิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นการทุจริตในการสอบ
     8.5 ไม่มีหลักฐานข้อ 6.1.2.2 มาแสดงในวันสอบภาควิชาการ
     8.6 ตรวจพบการปลอมแปลงเอกสารหลักฐานทุกชนิด
     8.7 เป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2

     9 การทำสัญญามอบตัวเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ)
ดูรายละเอียดได้ที่ www.afaps.ac.th

     10. การขอตรวจสอบคะแนนรายบุคคล
ผู้สมัครสอบสามารถตรวจสอบคะแนนภาควิชาการรายบุคคลได้ ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. – 31 ก.ค.60
ทางหน้าเว็บไซต์การรับสมัครhttp://admission.nkrafa.ac.th

     11 การเก็บรักษา และ/หรือ ทำลายเอกสารที่สำคัญ
     11.1 แม่พิมพ์ข้อสอบ ดำเนินการทำลายทันที
     11.2 ข้อสอบภาควิชาการดำเนินการเก็บไว้เป็นหลักฐาน 5 ชุด ไม่น้อยกว่า 1 ปี ที่เหลือทำลายทันที
     11.3 ใบบันทึกคะแนน ดำเนินการเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี
     11.4 กระดาษคำตอบ ดำเนินการเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 1 ปี
     11.5 ผลการตรวจร่างกายทางการแพทย์และผลการทดสอบความถนัดและวิภาววิสัย ดำเนินการเก็บผลดังกล่าวของผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ) เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารและเข้าศึกษาในโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช แล้วจึงทำลายส่วนผลของผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกฯ เก็บไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี

     12. ติดต่อสอบถาม
ติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการรับสมัครและการสอบคัดเลือก ได้ที่ กองสถิติและประเมินผล
โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช โทรศัพท์ 025343624-7  (ในวันและเวลาราชการ)
     13. คำเตือน
     13.1 การสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ในส่วนของกองทัพอากาศ) ดำเนินการโดย
คณะกรรมการระดับสูงของกองทัพอากาศ ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือท่านได้นอกจากใช้ความรู้ ความสามารถของท่านเอง หากพบผู้ไม่ประสงค์ดีแอบอ้างว่าสามารถให้การช่วยเหลือนักเรียนเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารได้กรุณาจดบันทึก ยศ ชื่อ นามสกุล ของผู้แอบอ้างและแจ้งมาที่ กองยุทธการและการข่าว กองบัญชาการ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช โทร 025340524 
     13.2 อ่านระเบียบการทั่วไป วิธีการสมัครสอบให้เข้าใจและปฏิบัติตามวิธีการต่าง ๆ ตามที่ระบุ
ไว้ให้ถูกต้อง
     13.3 เตรียมเอกสารหลักฐานที่จะใช้ในการสมัครสอบให้ครบถ้วน ถูกต้อง
     13.4 กรณีบัตรประจ าตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งเป็นบัตรที่ผู้สมัครสอบเตรียมมาเป็น
หลักฐานการเข้าห้องสอบได้สูญหายไปด้วยเหตุใด ๆ ทำให้ไม่มีบัตรตามที่กำหนดมาแสดงคู่กับบัตรประจำตัวสอบให้รีบดำเนินการแจ้งหายที่สถานีตำรวจ และนำหลักฐานมาแสดงต่อกรรมการคุมสอบในห้องสอบ
     13.5 ผู้สมัครสอบจะต้องติดตามประกาศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครสอบคัดเลือก ของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชอยู่เสมอ จะอ้างว่าไม่ทราบประกาศในภายหลังไม่ได้
     13.6 ระเบียบการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามคำสั่ง หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยโรงเรียน
นายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช จะประกาศให้ทราบต่อไป
     13.7 ผู้สมัครสอบต้องตรวจสอบการประกาศผลสอบของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
ทุกรอบด้วยตนเอง หากเห็นว่าประกาศผลสอบรอบใด ทำให้ผู้สมัครสอบเสียสิทธิ์ประการใดประการหนึ่ง ผู้สมัครสอบต้องอุทธรณ์ประกาศนั้น โดยยื่นต่อผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ภายใน 15 วันนับแต่วันประกาศ โดยการอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอ้างอิงประกอบด้วย
ขอบคุณข้อมูลจากโรงเรียนนายเรืออากาศนะครับ 

ข้อมูลเพิ่มเติม โรงเรียนนายเรืออากาศ

ระเบียบการทั่วไปและการสมัครคัดเลือกบุคคลพลเรือน เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารใหนส่วนของกองทัพเรือ (โรงเรียนนายเรือ)ประจำปี 2560

ระเบียบการทั่วไปและการสมัครคัดเลือกบุคคลพลเรือน เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารใหนส่วนของกองทัพเรือ ประจำปี 2560

     1. คํานํา
     1.1 โรงเรียนเตรียมทหาร มีภารกิจใหการศึกษาแกนักเรียนเตรียมทหาร เพื่อใหมีความรูในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ และใหมีความรู และประสบการณในวิชาการทหาร ตํารวจเบื้องตน รวมทั้งปลูกฝงคุณสมบัติการเปนผูนํา อุปนิสัย อัธยาศัย กําลังใจใหเขมแข็งมั่นคง มีพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ ตลอดจนปลูกฝงความรักสามัคคี ความคุนเคยซึ่งกันและกัน เพื่อผลในการปฏิบัติงานรวมกันในอนาคตและเมื่อนักเรียนเตรียมทหาร สําเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร จะมีพื้นฐานความรู คุณสมบัติ และสมรรถภาพเหมาะสมที่จะเขารับการศึกษาตอ ในโรงเรียนนายรอยพระจุลจอมเกลา โรงเรียนนายเรือโรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายรอยตํารวจ ซึ่งเปนสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาตอไป
     1.2 โรงเรียนนายเรือ มีภารกิจในการผลิตนายทหารสัญญาบัตรที่มีความรู และประสบการณดานวิชาชีพทหารเรือเพียงพอที่จะสามารถปฏิบัติหนาที่นายทหารสัญญาบัตร และนายตํารวจสัญญาบัตรในสวนของตํารวจน้ำไดอยางมีประสิทธิภาพ มีความเปนผูนํา มีคุณธรรม มีความสํานึกในหนาที่และความรับผิดชอบ เทิดทูนและยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย และมีความรูทางวิชาการระดับอุดมศึกษาในดานวิศวกรรมศาสตร และวิทยาศาสตรสาขาวิชาตาง ๆ ที่กองทัพเรือตองการ ซึ่งนักเรียนนายเรือสามารถเลือกศึกษาไดตามหลักเกณฑที่กําหนดไวในหลักสูตรการศึกษาโรงเรียนนายเรือเมื่อนักเรียนนายเรือ สําเร็จการศึกษามีสิทธิไดรับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต หรือวิทยาศาสตรบัณฑิต ตามสาขาวิชาที่ศึกษาและไดรับการแตงตั้งยศเปน “วาที่เรือตรี” และ “วาที่รอยตํารวจตรี”
บรรจุในตําแหนงนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพเรือ และนายตํารวจสัญญาบัตรของสํานักงานตํารวจแหงชาติ(กองบังคับการตํารวจน้ำ) ตอไป
     1.3 นักเรียนนายเรือ
นักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ ที่สําเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร จะไดเลื่อนชั้น
เปนนักเรียนนายเรือ เขาศึกษาตอในโรงเรียนนายเรือ ซึ่งจะไดรับสิทธิและโอกาสดังนี้
     1.3.1 ชวงเวลาการศึกษาในโรงเรียนนายเรือ
          1.3.1.1 นักเรียนนายเรือจะไดรับเงินเดือนตั้งแต 3070 – 4160 บาท ตามชั้นป
          1.3.1.2 กองทัพเรือ ออกคาใชจายดานการศึกษา ที่พัก อาหาร เครื่องแตงกายใหทั้งหมด
          1.3.1.3 นักเรียนนายเรือ (ในสวนของกองทัพเรือ) ที่มีผลการศึกษาดีมีสิทธิสอบคัดเลือก
เพื่อไปศึกษาในโรงเรียนนายเรือตางประเทศ ปละประมาณ 3 - 5 ทุน
          1.3.1.4 มีทุนการศึกษาสนับสนุนผูเรียนดี และมีความประพฤติดีจํานวนมาก
          1.3.1.5 นักเรียนนายเรือ ผูมีผลการศึกษาดี มีความประพฤติดี จะไดรับแตงตั้งใหทําหนาที่
หัวหนาชั้น หรือนักเรียนบังคับบัญชา มีเงินเดือน ตั้งแต 4400 - 5340 บาท (งดรับเงินเดือนในขอ 1.3.1.1)
          1.3.1.6 นักเรียนนายเรือมีโอกาสเดินทางไปตางประเทศเพื่อเพิ่มพูนทักษะในการรับราชการ
โดยการไปฝกภาคปฏิบัติทางทะเล และเยี่ยมเยือนจังหวัดชายทะเลดานอาวไทยและทะเลอันดามัน รวมถึงไดเยี่ยมเยือนเมืองทาของประเทศตาง ๆ เชน ประเทศกลุมอาเซียน, รัสเซีย, ญี่ปุน, จีน, เกาหลี, ออสเตรเลีย อินเดีย หรือประเทศในแถบยุโรป
     1.3.2 เมื่อสําเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ
          1.3.2.1 นักเรียนนายเรือ (ในสวนของกองทัพเรือ) ไดรับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร
รวมทั้งไดรับการบรรจุเปนนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพเรือ ไดรับเงินเดือน และเงินเพิ่มคาครองชีพชั่วคราว (พ.ช.ค.) รวม 15000 บาท เมื่อเปนนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพเรือแลว มีสิทธิสมัครเขารับการศึกษาเพิ่มเติมทางการทหารตามขีดความสามารถของตนเอง ในสาขาอาชีพพิเศษตาง ๆ อาทิ เชน
     - นักบินของกองทัพเรือ ไดรับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสําหรับนักบินประจํากอง 11000 บาท ถึง 14600 บาท/เดือน
     - กําลังพลสงทางอากาศ(นักโดดรม) ของหนวยบัญชาการนาวิกโยธิน ไดรับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน 7000 บาท/เดือน
     - นักทําลายใตน้ําจูโจมของหนวยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ไดรับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน 11000 บาท/เดือน
     - นักประดาน้ําของกรมสรรพาวุธทหารเรือ ไดรับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน 7000 บาท/เดือน
     - ตนหนอากาศยาน ไดรับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน 7000 บาท/เดือน
      - ผูที่มีผลการศึกษาดี(คะแนนเฉลี่ยสะสมสูงกวา 2.8) มีสิทธิสมัครสอบคัดเลือกไปศึกษาในระดับปริญญาโท หรือปริญญาโท - เอก ตางประเทศ โดยทุนของกองทัพเรือในสาขาวิชาตาง ๆ จํานวนมาก
          1.3.2.2 นักเรียนนายเรือ (ในสวนของสํานักงานตํารวจแหงชาติ) ไดรับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร รวมทั้งไดรับการบรรจุเปนนายตํารวจสัญญาบัตรของสํานักงานตํารวจแหงชาติไดรับเงินเดือน และเงินเพิ่มคาครองชีพชั่วคราว (พ.ช.ค.) รวม 15000 บาท


     2.คุณสมบัติและลักษณะของผู้สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
      1. สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า
      2. อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหารการนับอายุให้นับตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร
      3. มีสัญชาติไทยและบิดามารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือหน้าตำรวจสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวนหรือนายตำรวจประทวนซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดแล้วมารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
      4. ขนาดของร่างกายต้องมีขนาดพิกัดความสมบูรณ์ตามที่กำหนด
      5. มีอวัยวะรูปร่างลักษณะท่าทางเหมาะแก่การเป็นทหาร ไม่มีโรคต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารและตามระเบียบที่กองทัพไทยกำหนด
      6. เป็นชายโสด
      7. เป็นผู้มีความประพฤติดีไม่บกพร่องในศีลธรรมเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
      8. ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างตกเป็นจำเลยในคดีอาญาหรือไม่เคยต้องคำพิพากษาของศาลว่าได้กระทำผิดในคดีอาญา เว้นแต่ความผิดในลักษณะฐานลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
      9. ไม่เคยถูกไล่ออกหรือถูกปลดออกจากสถานศึกษาในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ หรือโรงเรียนทหาร โรงเรียนตำรวจ หรือที่ทางราชการไล่ออก หรือปลดออก ทั้งนี้เนื่องจากความประพฤติไม่เหมาะสม
      10. ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติดหรือสารเสพติดให้โทษที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
      11. ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับส่วนราชการใดๆอันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
      12. บิดามารดาและผู้ปกครองเป็นผู้มีอาชีพสุจริตชอบธรรมและมีหลักฐานเชื่อถือได้
      13. เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
      14. มีผู้ปกครองและผู้รับรองซึ่งสามารถรับรองข้อความและพันธกรณีที่ทางราชการกำหนดไว้
หมายเหตุ คุณสมบัติและคุณลักษณะดังกล่าวนี้ข่าวปรากฏว่าเป็นความที่ขึ้นภายหลังจากที่รับเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้วจะต้องพ้นจากฐานะนักเรียนเตรียมทหารทันทีและผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย


     3. วิธีปฏิบัติในการสมัคร
     3.1 รับสมัครทางอินเตอรเน็ตเพียงชองทางเดียว ทางเว็บไซต http://www.rtna.ac.th หรือ http://www.navy.mi.th หรือ https://admission-navy.job.thai.com/ ตั้งแตวันที่ 5 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ 2560 พิมพบัตรประจําตัวสอบและตรวจสอบสถานที่สอบไดตั้งแตวันที่ 20 กุมภาพันธ 2560 เปนตนไป (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 024753995,024757435 ในระหวางเวลา 0800 น. – 1600 น.ทุกวันราชการ หรือ email : addmissionrtna@gmail.com)
     3.2 ผูสมัครสามารถเลือกใชบริการชําระคาสมัครสอบคัดเลือกฯ ของธนาคารกรุงไทย จํากัด(มหาชน) หรือธนาคารทหารไทย จํากัด(มหาชน) โดยจะตองนําแบบฟอรมของธนาคารที่พิมพจากระบบรับสมัครสอบคัดเลือกไปชําระที่เคานเตอรรับเงินของธนาคารที่เลือกใชบริการไดตั้งแตวันที่ 5 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ 2560 โดยจะมีคาธรรมเนียมในการใหบริการที่ธนาคารเรียกเก็บเพิ่มเติมขึ้นอยูที่อัตราที่ธนาคารกําหนด 
     3.3 ผูสมัครสามารถเลือกสมัครสอบคัดเลือกฯเปนนักเรียนนายเรือในสวนของกองทัพเรือ หรือนักเรียนนายเรือในสวนของสํานักงานตํารวจแหงชาติเพียงสังกัดเดียว หรือสมัครทั้ง 2 สังกัด เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับคัดเลือกได โดยมีคาธรรมเนียมในการสมัครสอบคัดเลือกฯ ดังนี้
     - กรณี สมัครสังกัดเดียว คาธรรมเนียมการสมัครสอบคัดเลือกฯ จํานวน 280 บาท
     - กรณี สมัคร 2 สังกัด คาธรรมเนียมการสมัครสอบคัดเลือกฯ จํานวน 430 บาททั้งนี้ ไมรวมคาธรรมเนียมที่ธนาคารเรียกเก็บ

     4 การเตรียมตัวของผูสมัคร
     4.1 อาน “ระเบียบการทั่วไปและวิธีการสมัครสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนเขาเปนนักเรียนเตรียมทหาร
ในสวนของกองทัพเรือ ปการศึกษา 2560” (Download ตามขอ 3.1) ใหเขาใจโดยละเอียด และดําเนินการตามขั้นตอนตาง ๆ ที่กําหนด
     4.2 เตรียมไฟลรูปถายครึ่งตัว ขนาด 100 Kb. ประเภทของไฟลเปน jpeg หรือ .GIF แตงกายชุดนักเรียนหรือชุดนักศึกษา หนาตรง ไมสวมหมวก ไมสวมแวน ตองเปนรูปที่ถายในคราวเดียวกันไมเกิน 3 เดือน นับถึงวันยื่นสมัคร และไฟลรูปสําเนาบัตรประชาชน เพื่อใชประกอบในการสมัครสอบ หากรูปถายไมถูกตองอาจสงผลตอการตรวจสอบตัวบุคคลในการเขาสอบและกรรมการคุมสอบอาจไมอนุญาตใหเขาสอบ จะถือเปนความบกพรองของผูสมัครสอบเองและจะอางวาระบบรับสมัครสอบไดทําการรับสมัครไวแลวไมได
     4.3 ตรวจสอบความสมบูรณของรางกายของผูสมัคร ซึ่งตองไมเปนโรคหรือความพิการอื่น ๆ ที่ขัดตอการสมัครเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ (รายละเอียดตามผนวก ก)
     4.4 สมัครทางอินเตอรเน็ต ตามขอ 3.1
     4.5 เอกสารขอรับสิทธิคะแนนเพิ่มพิเศษ ผูสมัครที่มีสิทธิไดรับคะแนนเพิ่มในการสอบ ซึ่งเปนไปตาม
ระเบียบกองทัพไทยที่ประกาศใช(รายละเอียดตามผนวก ข) และหรือตามที่กองทัพไทยจะประกาศใช ใหสงเอกสารทางไปรษณียดวนพิเศษ (EMS) ตั้งแตวันที่รับสมัคร ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ 2560 จาหนาซองถึง คณะอนุกรรมการรับสมัครและประเมินผล โรงเรียนนายเรือ ตําบลปากน้ํา อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ๑๐๒๗๐วงเล็บมุมซองวา“คะแนนเพิ่มพิเศษ นตท.” โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณียเปนเกณฑ หากเกินกําหนดถือวา ผูสมัครสละสิทธิในการใชสิทธิคะแนนเพิ่มพิเศษดังกลาว และหากเอกสารสูญหายไมวากรณีใด ๆ ระหวางการดําเนินการจัดสงเอกสาร โรงเรียนนายเรือจะไมรับผิดชอบกับการสูญหายดังกลาว
     4.6 ใหนําบัตรประจําตัวสอบพรอมบัตรประชาชน มาเปนเอกสารหลักฐานแสดงตน ในการเขาสอบ
ทุกรอบและการไปติดตอเรื่องตาง ๆ กับโรงเรียนนายเรือ
     4.7 การแตงกายในการเขาสอบทุกรอบ และการไปติดตอเรื่องตาง ๆ กับโรงเรียนนายเรือ ตองสุภาพ
เรียบรอย
     4.8 การสอบภาควิชาการ ผูสมัครควรเดินทางไปสถานที่สอบกอนเวลาอยางนอย 2 ชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวใหพรอมและหลีกเลี่ยงการจราจรที่คับคั่ง ประกอบกับสถานที่สอบมี 2 แหง ดังนั้นผูสมัครตองตรวจสอบสถานที่สอบใหถูกตอง
     4.9 หลักฐานที่ใชประกอบในการรับสมัครเฉพาะผูสอบผานภาควิชาการ ใหนําเอกสารหลักฐานตาง ๆ
มามอบใหคณะกรรมการของโรงเรียนนายเรือ ในวันทดสอบสุขภาพจิต วันที่ 27 มีนาคม 2560 ที่โรงเรียนนายเรือจังหวัดสมุทรปราการ (ตัวอยางหนังสือรับรองประเภทตาง ๆ รายละเอียดตามผนวก ค)
     4.9.1 เอกสารรับรองผลการศึกษาใชใบรับรองการศึกษาที่แสดงวาสําเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 (ม.4) หรือระเบียนแสดงผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาปที่ 4 (รบ.1-ต.) หรือเทียบเทา
     4.9.2 ในกรณีที่บิดาหรือมารดาผูใหกําเนิด ถึงแกกรรม และไมมีชื่ออยูในสําเนาทะเบียนบาน ใหนํา
หลักฐานใบมรณบัตร หรือหลักฐานอื่นของทางราชการ เพื่อแสดงสัญชาติของบิดา มารดาผูใหกําเนิด
     4.9.3 สําเนาทะเบียนบานของผูสมัครและของบิดา มารดาผูใหกําเนิด
     4.9.4 เอกสารการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุล ของผูสมัคร และของบิดา มารดาผูใหกําเนิด (ถามี)







     5. การคัดเลือก แบ่งออกเป็น 2 รอบคือ
     การสอบภาควิชาการ เป็นการทดสอบความรู้ด้านวิชาการเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานดีเพียงพอที่จะศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร และเมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในด้านวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนนายเรือได้ต่อไป
          วิชาที่สอบและคะแนนในการสอบภาควิชาการ จะทำการสอบวิชาคณิตศาสตร์วิชาวิทยาศาสตร์วิชาภาษาอังกฤษวิชาภาษาไทย และวิชาสังคมศึกษา โดยมีขอบเขตเนื้อหารายวิชาครอบคลุมความรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4) ของกระทรวงศึกษาธิการโดยมีคะแนนดังนี้
          - วิชาคณิตศาสตร์ 220 คะแนน (คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40)
          - วิชาวิทยาศาสตร์ 220 คะแนน
          - วิชาภาษาอังกฤษ 160 คะแนน ( คะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40)
          - วิชาภาษาไทยและสังคมศึกษา 100 คะแนน
     ในการสอบภาควิชาการโรงเรียนนายเรือจัดเตรียมดินสอดำชนิด 2B และยางลบที่จะใช้ในการทำข้อสอบไว้ให้ผู้สมัครทุกคน โดยผู้สมัครไม่ต้องนำดินสอ และยางลบของตนเองเข้าห้องสอบ และห้ามผู้สมัครนำอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่างๆนาฬิกาข้อมือหรือกระดาษจดข้อความหรือกระดาษอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบ เข้าในห้องสอบโดยเด็ดขาดหาผู้สมัครฝ่าฝืนและกรรมการคุมสอบตรวจพบการนำสิ่งต้องห้ามเข้าห้องสอบจะถือว่าผู้นั้นกระทำการทุจริตในการสอบ นอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย
     การสอบรอบสอง จะคัดเลือกผู้ที่สอบภาควิชาการที่ได้เรียงตามลำดับคะแนนสูงสุดตามจำนวนที่ต้องการเข้าทดสอบสุขภาพจิต สอบพลศึกษาสัมภาษณ์ท่วงทีวาจาและตรวจร่างกายเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความเหมาะสม และมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตรที่มีคุณภาพของกองทัพเรือต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ไม่มาเข้าทำการทดสอบรอบ 2 ตามวันและเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ์ โดยมีการทดสอบดังนี้
          การทดสอบสุขภาพจิต เป็นการตรวจสอบสภาพความสมบูรณ์และความเหมาะสมทางด้านจิตใจของผู้สมัคร โดยผู้สมัครต้องชำระเงินค่าตรวจร่างกายและการตรวจทางการแพทย์จำนวน 1,230 บาทในวันพุธสอบสุขภาพจิตด้วย
          การทดสอบพลศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้สมัคร ซึ่งมีคะแนนในการสอบพลศึกษา 100 คะแนน ซึ่งจะนำคะแนนสอบพลศึกษาไปรวมกับคะแนนสอบภาควิชาการ 700 คะแนนรวมเป็น 800 คะแนน แล้วจัดลำดับที่ใหม่ในการประกาศผลสอบรอบสอง ต่อไป (หากไม่สามารถว่ายน้ำได้หรือว่ายน้ำไม่ผ่านในเวลาที่กำหนดถือว่าสอบไม่ผ่านรอบสอง)
          การสอบสัมภาษณ์ท่วงทีวาจา เป็นการพิจารณาตรวจสอบรูปร่าง ลักษณะท่าทางความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจว่องไว และปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนลักษณะความเหมาะสมที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตรของผู้สมัคร มีผลการสอบผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น ผู้สอบไม่ผ่าน หมายถึงผู้ที่มีลักษณะท่าทาง หรือลักษณะความสมบูรณ์ของร่างกายไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตร
          การตรวจร่างกาย ผู้สมัครจะต้องรับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ผู้ที่ไม่มารับการตรวจร่างกาย ตามวันและเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ ผลการตรวจร่างกาย ณ วันตรวจ ถือเอาความเห็นของกรรมการแพทย์ที่กองทัพเรือแต่งตั้งเป็นเด็ดขาด โดยไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายจากที่อื่นๆ นอกจากการตรวจร่างกายแล้วจะมีการเอกซเรย์ตรวจโลหิต และตรวจปัสสาวะด้วย ในกรณีที่แพทย์ต้องการตรวจพิเศษนอกเหนือจากการตรวจธรรมดาดังกล่าว ผู้รับการตรวจจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง
     คำแนะนำ การปฏิบัติในวันตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องทดลอง
           - ไม่ควรรับประทานยาใดๆเช่น ยาแก้หวัด ยาแก้ไอ ยาแก้โรคหอบหืด ยาลดความอ้วนยาที่มีผลต่อจิตประสาท ฯลฯ หรือยาใดๆ ที่อาจมีผลต่อการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ
          - ก่อนวันตรวจ และเช้าวันตรวจผู้สมัครไม่ควรรับประทานอาหารและยาประเภทกระตุ้นกำลังเพราะอาจทำให้การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตผิดปกติได้
          - ห้ามผู้สมัครใส่คอนแทคเลนส์มาตรวจสายตา
          - ผู้สมัครควรงดรับประทานอาหารหลังเวลา 24.00 นาฬิกาก่อนวันที่ทำการตรวจ

     6. วัน - เวลา และสถานที่สอบ
     6.1 วัน - เวลา และสถานที่สอบภาควิชาการ
     การสอบภาควิชาการ ในวันเสารที่ 4 มีนาคม 2560 ระหวางเวลา 1300 น. จนถึงเวลา 1630 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ศูนยรังสิต และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต (วิทยาเขตพัฒนาการ)ดูแผนที่
สังเขปตามใบแทรก กและใบแทรก ขตามลําดับ ผูสมัครควรเดินทางไปสถานที่สอบกอนเวลา เพื่อเตรียมตัวใหพรอมและหลีกเลี่ยงการจราจรที่คับคั่ง เนื่องจากสถานที่สอบมี 2 แหง ดังนั้นผูสมัครตองตรวจสอบสถานที่สอบใหถูกตอง
     6.2 วัน - เวลา และสถานที่สอบรอบสอง ระหวางวันที่ 27 มีนาคม 2560 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2560
     6.2.1 การทดสอบสุขภาพจิต วันที่ 27 มีนาคม 2560 ระหวางเวลา 0800 น. - 1500 น.ที่โรงเรียนนายเรือ (แผนที่สังเขปตามใบแทรก ค)
     6.2.2 การตรวจรางกาย ระหวางวันที่ 28 มีนาคม 2560 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2560 ตั้งแตเวลา
0800 น. ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปนเกลา (แผนที่สังเขปตามใบแทรก ง)
     6.2.3 การสอบพลศึกษา และการสัมภาษณ- ทวงทีวาจา ระหวางวันที่ 29 มีนาคม 2560 ถึงวันที่
30 มีนาคม 2560 ตั้งแตเวลา 0800 น. (รายงานตัวเวลา 0600 น. ถึงเวลา 0630 น.) ที่โรงเรียนนายเรือ
(แผนที่สังเขปตามใบแทรก ค)

     7.การขาดสอบ และการออกจากหองสอบ
     7.1 การขาดสอบภาควิชาการวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือขาดการทดสอบสุขภาพจิต หรือขาดสอบพลศึกษา หรือขาดสอบสัมภาษณทวงทีวาจา หรือขาดตรวจรางกาย จะถือวาผูนั้นหมดสิทธิในการสอบคัดเลือก
     7.2 ผูที่กระทําการทุจริตในการสอบ หรือชวยเหลือในการกระทําทุจริต จะถือวาผูนั้นหมดสิทธิในการ
สอบคัดเลือก นอกจากนี้ ผูสมัครยังอาจถูกดําเนินคดีตามกฎหมายอีกดวย
     7.3 ผูที่มาเขาหองสอบชากวาเวลาเริ่มตนสอบเกิน ๓๐ นาทีจะไมไดรับอนุญาตใหเขาหองสอบ และ
ถือวาขาดสอบ
     7.4 การออกจากหองสอบใหออกเมื่อไดรับอนุญาตจากคณะกรรมการเทานั้น

     8. การประกาศผลสอบคัดเลือก
     8.1 การประกาศผลสอบภาควิชาการ โรงเรียนนายเรือจะแจงขอมูลผลการสอบ และประกาศผลสอบ โดย
          8.1.1 แจงขอมูลผลสอบทางโทรศัพท ตั้งแต วันที่ 18 มีนาคม 2560
          -ผานขอความตอบรับทางโทรศัพท(SMS) หมายเลข 4847821
          8.1.2 แจงขอมูลผลสอบทาง Internet ตั้งแต วันที่ 18 มีนาคม 2560
          - โรงเรียนนายเรือ http://www.rtna.ac.th หรือ http://www.navy.mi.th
          8.1.3 ประกาศผลสอบคัดเลือกภาควิชาการอยางเปนทางการ ที่โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินท
กษัตริยาธิราช ดอนเมือง กรุงเทพฯ วันที่ 20 มีนาคม 2560 ตั้งแตเวลา 0800 น. ถึงเวลา 1200 น.
(แผนที่สังเขปตามใบแทรก จ)

     เนื่องจากกําหนดสอบภาควิชาการของแตละเหลาทัพไมตรงกัน จึงอาจมีผูสมัครสอบผานภาควิชาการ
ไดมากกวาหนึ่งเหลาทัพขึ้นไป และการสอบรอบสองก็มีกําหนดการสอบแตละเหลาทัพไมตรงกัน ดังนั้นผูสมัครจึงมีสิทธิเลือกเขาสอบในรอบสองไดหลายเหลาทัพเชนกัน ทั้งนี้ผูสมัครควรไปดูผลสอบดวยตนเอง เพื่อรายงานตัวตอคณะกรรมการของแตละเหลาทัพ และรับทราบขอมูล ตลอดจนการปฏิบัติที่ถูกตองในการสอบรอบสองตอไป
     8.2 การประกาศผลสอบรอบสอง โรงเรียนนายเรือจะแจงขอมูลผลการสอบ และประกาศผลสอบ โดย
     8.2.1 แจงขอมูลผลสอบทางโทรศัพท ตั้งแต วันที่ 17 เมษายน 2560
     -ผานขอความตอบรับทางโทรศัพท(SMS) หมายเลข 4847821
     8.2.2 แจงขอมูลผลสอบทาง Internet ตั้งแต วันที่ 17 เมษายน 2560
     - โรงเรียนนายเรือ www. rtna.ac.th หรือ กองทัพเรือ www. navy.mi.th
     8.2.3 ประกาศผลสอบรอบสองอยางเปนทางการ ที่โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
ดอนเมือง กรุงเทพฯ วันที่ 18 เมษายน 2560 เวลา 0800 น. - 1200 น.
     ผูสมัครอาจผานการสอบรอบสองมากกวาหนึ่งเหลาทัพ แตผูสมัครจะสามารถเลือกรายงานตัวเขา
เปน นตท.ในสวนของเหลาทัพใดเหลาทัพหนึ่งเพียงเหลาทัพเดียวและตองรายงานตัวตอคณะกรรมการรับสมัครของเหลาทัพที่ตนเลือกภายในเวลาที่กําหนดเทานั้น สําหรับรายละเอียดการปฏิบัติ และชวงเวลาในการรายงานตัวจะมีการแจงใหผูสมัครทราบในวันที่ 18 เมษายน 2560 เวลา 0800 น.

     9. การทําสัญญามอบตัวเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ
     ผูที่ไดรับคัดเลือกเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ จะตองนําผูปกครองและผูค้ําประกันไปทําสัญญาที่โรงเรียนเตรียมทหาร อําเภอบานนา จังหวัดนครนายก ในวันที่ 20 เมษายน 2560 ภายในเวลา 0800 น. - 1200 น. พรอมทั้งนําเงินคาใชจายในการเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารมาชําระดวย ตามจํานวนเงินที่จะแจงใหทราบในวันประกาศผลการสอบรอบสอง หากมีขอสงสัยกรุณาติดตอโรงเรียนเตรียมทหารโทร. 025725441-2 และ 025725404 (ดูแผนที่สังเขปตามใบแทรก ฉ)
     ผูที่มีปญหาในการทําสัญญาใหรีบติดตอกับโรงเรียนนายเรือในโอกาสแรกกอนวันทําสัญญา เนื่องจากผูไมมาทําสัญญา หรือไมนําหลักฐานดังกลาวมามอบให หรือไมนําเงินมาชําระตามที่กําหนด ถือวาสละสิทธิในการเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ และคณะกรรมการจะเรียกบุคคลสํารองเขาทําสัญญาแทนตอไป

     10. บุคคลสํารอง
การประกาศผลรอบสอง โรงเรียนนายเรือ จะประกาศหมายเลขประจําตัวสอบของบุคคลสํารอง ตามลําดับที่สอบไดโดยบุคคลสํารองจะตองปฏิบัติตามขอกําหนด ดังนี้
     10.1 บุคคลสํารองจะตองรายงานตัวตอคณะกรรมการประกาศผลสอบของโรงเรียนนายเรือและคณะกรรมการทําสัญญาของโรงเรียนเตรียมทหารในวันประกาศผลสอบรอบสอง วันที่ 18 เมษายน 2560 พรอมทั้งรับเอกสาร และเขารับฟงคําชี้แจงจากโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อรับทราบสิทธิและขอปฏิบัติของบุคคลสํารอง
     10.2 บุคคลสํารองยังไมมีสิทธิเขาทําสัญญาเปนนักเรียนเตรียมทหารแตอยางใด แตจะตองไปรายงานตัวตอคณะกรรมการทําสัญญาของโรงเรียนเตรียมทหาร ที่โรงเรียนเตรียมทหาร อําเภอบานนา จังหวัดนครนายก ในวันทําสัญญามอบตัวเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ ในวันที่ 20 เมษายน 2560 ภายในเวลา 1100 น. - 1200 น. เพื่อรักษาสิทธิในการเปนบุคคลสํารอง หากไมไปรายงานตัวตามวันเวลา และสถานที่ดังกลาวขางตน จะถือวาสละสิทธิการเปนบุคคลสํารอง
     10.3 กรณีที่ผูไดรับคัดเลือกเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ(บุคคลตัวจริง) ขาดจํานวนไปเนื่องจากไมไปทําสัญญา หรือไดทําสัญญาเรียบรอยแลวแตลาออกจากการเปนนักเรียนเตรียมทหารภายในระยะเวลาที่โรงเรียนเตรียมทหารกําหนด คณะกรรมการทําสัญญาของโรงเรียนเตรียมทหารจะเรียกบุคคลสํารองของนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ เขาทดแทนตามจํานวนที่ขาดไป โดยการเรียกเขาทดแทนจะเรียงตามลําดับที่สอบไดตามการประกาศผลรอบสองของโรงเรียนนายเรือเทานั้น
     10.4 โปรดอยาหลงเชื่อบุคคลใดที่รับปาก หรือแอบอางวาจะชวยเหลือบุคคลสํารองใหเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือได เนื่องจากการเรียกบุคคลสํารองเขาทําสัญญา จะเปนไปตามลําดับที่ของระเบียบการทั่วไปและวิธีการสมัครสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนเขาเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือปการศึกษา 2560 บุคคลสํารองที่ไดประกาศไว และตองไดรับความเห็นชอบรวมกันระหวาง คณะกรรมการทําสัญญาของ โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายเรือ หากมีขอสงสัยกรุณาติดตอสอบถามไดที่ โรงเรียนเตรียมทหาร หรือโรงเรียนนายเรือโดยตรง

     11 สาเหตุที่ตองพนจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร
     11.1 ถึงแกกรรม
     11.2 ลาออก
     11.3 ปวย ซึ่งแพทยทหารไมนอยกวา 2 นาย ไดตรวจแลว และลงความเห็นวาไมสามารถจะศึกษาตอไปใหสําเร็จได
     11.4 โรคหรือความพิการที่ตรวจพบภายหลัง และแพทยลงความเห็นวา ขัดตอระเบียบการเขาเปน
นักเรียนเตรียมทหาร หรือพระราชบัญญัติรับราชการทหาร เชน ตาบอดสี หืด ฯลฯ
     11.5 ไมสามารถหาผูปกครองหรือผูค้ําประกันรายใหมมาทําสัญญาภายใน 90 วัน (เนื่องจากผูปกครอง
หรือ ผูค้ําประกันถึงแกกรรม หรือ ถอนสัญญา)
     11.6 เกียจครานตอการศึกษา ซึ่งคณะกรรมการการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร พิจารณาเห็นวาไมสมควรจะใหศึกษาตอไป
     11.7 ถูกตัดคะแนนความประพฤติเกินกําหนด
     11.8 สอบตกซึ่งผูบังคับบัญชาพิจารณาเห็นวาไมสมควรจะใหศึกษาตอไปอีก
     11.9 หากปรากฏภายหลังวามีภรรยาอยูกอน หรือขณะเขาเปนนักเรียน ไมวาจะเปนภรรยาโดยชอบดวยกฎหมายหรือไมก็ตาม (กรณีเปนภรรยาโดยมิชอบดวยกฎหมาย ใหถือเอาความประพฤติผิดตอการไดเสียฉันทสามีภรรยา ความเสียหายแกการศึกษา และศีลธรรมอันดีเปนเกณฑในการพิจารณา)
     11.10 แสดงขอความและหลักฐานอันเปนเท็จในเอกสารใบสมัคร

     12. การชดใชคาเสียหายเมื่อพนจากฐานะนักเรียนเตรียมทหาร
     เมื่อไดเปนนักเรียนเตรียมทหารในสวนของกองทัพเรือ และเรียนจบหลักสูตรที่ทางราชการกําหนดไวจะตองเขาศึกษาตอที่โรงเรียนนายเรือถาตองพนจากฐานะนักเรียนในระหวางการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหารก็ดีหรือไมเขาศึกษาตอที่โรงเรียนนายเรือ โดยมิใชสอบความรูตก ปวย หรือมีเหตุผลอันสมควรที่จะไดรับความกรุณาแลวจะตองชดใชเงินเปนคาทดแทนตอกองบัญชาการกองทัพไทย (รายละเอียดตามผนวก ฉ)

     13. การแจงคะแนนผลการสอบภาควิชาการทาง Internet
โรงเรียนนายเรือจัดใหมีบริการแจงคะแนนผลการสอบภาควิชาการทาง Internet โดยผูสมัครที่ตองการ
ทราบคะแนนผลการสอบภาควิชาการของตนเองเปนรายบุคคล ไดที่ http://www.rtna.ac.th หรือ
http://www.navy.mi.th ระหวาง 20 กรกฎาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2560

ขอบคุณข้อมูลจากโรงเรียนนายเรือครับ
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ โรงเรียนนายเรือ