เซต
เซต เป็นคำนามที่บ่งบอกถึงกลุ่มของสิ่งของต่างๆ และจะให้ในกรณีที่ทราบแน่นอนว่าสิ่งใดอยู่ในกลุ่มและสิ่งใดไม่อยู่ในกลุ่ม เช่นเซตของเดือนในหนึ่งปี บอกได้แน่นอนว่ามีเดือนใดบ้างอยู่ในเซต เซตจำนวนเต็มบวก บอกได้แน่นอนจำนวนที่เต็มที่สามารถอยู่ในเซตได้เช่นจำนวนใดบ้างเรียกสิ่งที่อยู่ในเซตว่าสมาชิกของเซต เช่น 2 เป็นสมาชิกของเซตของจำนวนเต็มบวก
ข้อตกลงเกี่ยวกับสัญลักษณ์
1. ให้สัญลักษณะ ``\in " แทนการเป็นสมาชิก และ ``\notin " แทนการไม่เป็นสมาชิก เช่น ``x\in A " อ่านว่า x เป็นสมาชิกของ A (หรือ x อยู่ใน A)
``x\notin " อ่านว่า x ไม่เป็นสมาชิกของ A (หรือ x ไม่อยู่ใน A)
2. ในกรณีทั่วไป จะใช้อักษรอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ A,B \dots ,Z แทนเซต และอักษรภาษาอัังกฤษตัวพิมพ์เล็ก a,b,\dots , z แทนสมาชิกของเซต
3. สัญลักษณ์แทนเซตจำนวนต่างๆ
I แทนเซตของจำนวนเต็ม
Q^- แทนเซตของจำนวนตรรกยะเป็นลบ
I^{+} แทนเซตของจำนวนเต็มบวก
R แทนเซตของจำนวนจริง
I^- แทนเซตของจำนวนเต็มลบ
R^+ แทนเซตของจำนวนจริงบวก
Q แทนเซตของจำนวนตรรกยะ
R^- แทนเซตของจำนวนจริงลบ
Q^+ แทนเซตของจำนวนตรรกยะเป็นบวก
N แทนเซตของจำนวนนับ
วิธีเขียนสัญลักษณ์ เพื่อกำหนดเซตอยู่ 2 วิธี คือ
1. วิธีแจกแจงสมาชิก วิธีนี้สมาชิกทั้งหมดของเซตลงในเครื่องหมายวงเล็บปีกกา และใช้เครื่องหมาย ``," คั่นระหว่างสมาชิกแต่ละตัว เช่น เซตของวันในหนึ่งสัปดาห์
\{จันทร์,อังคาร,พุธ,พฤหัสบดี,ศุกร์,เสาร์,อาทิตย์\}
ในกรณีที่ไม่สามารถเขียนสมาชิกได้ครบทุกตัว หรือแม้เขียนได้ก็ยาวเกินไป จะใช้ ``....." ช่วย เช่น ว่าสมาชิก ตัวต่อไปคืออะไรเช่น
\{1,2,3,4,5,\dots \}
แต่จะไม่เขียน \left\{ 0,\dfrac{3}{2},\sqrt{5},11,\dots \right\} เพราะไม่ทราบว่าจำนวนใดอยู่ถัดจาก 7
หรือ \left\{ 1,2,3,\dots ,\dfrac{1}{2},\dfrac{1}{3},\dfrac{1}{4},\dots\right\} เพราะไม่ทราบว่าจำนวนใดหน้า \cfrac{1}{2}
2. วิธีกำหนดเงื่อนไข วิธีเขียนตัวแปรแทนสมาชิก และกำหนดเงื่อนไขในรูปของตัวแปรนั้น เพื่อบอกว่าสิ่งใดเป็นสมาชิกของเซต แล้วเขียนวงเล็บปีกกาคร่อม เช่น ถ้าให้เอกภพสัมพัทธ์ U เท่ากับเซตของจำนวนเต็มบวก
เช่น A=\{x\;|\; x เป็นจำนวนนับและ x มีค่าไม่เกิน \} ซึ่งอ่านว่า
A เป็นเซตที่ประกอบด้วย x โดยที่ x เป็นจำนวนนับ และ x มีค่าไม่เกิน 5
เอกภพสัมพันธ์ คือเซตที่ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมดของสิ่งทีี่เราศึกษา เขียนแทนด้วย U เช่น เราจะศึกษาเกี่ยวกับจำนวนเต็ม ดังนั้นเอกภพสัมพันธ์ คือเซตของจำนวนเต็ม และมีเซตของจำนวนเต็มบวกและเซตของจำนวนเต็มลบ และเซตจำนวนเต็มศูนย์ ต่างกับสับเซตของเอกภพสัมพันธ์
เช่น A=\{x\in N\;|\; x เป็นจำนวนเฉพาะ\}\;U=N
B=\{x\in R\;|\; x\in N และ 5 หาร x ลงตัว\};U=R
ข้อตกลง เมื่อเอกภพสัมพัทธ์คือเซตของจำนวนจริง อาจตกลงไม่เขียนเอกภพสัมพัทธ์ เช่น
\{x\;|\; x^2=1\} หมายถึง \{x\in R\;|\; x^2=1\}
การเท่ากันของเซต เซต A และ เซต B จะเป็นเซตที่เท่ากันก็ต่อเมื่อสมาชิกทุกตัวของเซต A เป็นสมาชิกของเซต B และสมาชิกของเซต B และสมาชิกทุกตัวของเซต B เป็นสามาชิกของเซต A เขียนแทนด้วย A=B
A=\{x\;|\; x เป็นคำตอบของสมการ x^2-2x-8\}
และ B=\{-2,4\}
เซตว่างคือ เซตที่ไม่มีสมาชิกเขียนแทนเซตว่างด้วย \varnothing หรือ \{ \}
เช่น A=\{x | x เป็นจำนวนจริงและ x^2+1=0\} จะได้ว่า A=\varnothing
B=\{x | x เป็นจำนวนเต็มที่มีค่าอยู่ระหว่าง 2 และ 3\}
เซตจำกัดและเซตอนันต์
บทนิยาม ให้ A เป็นเซต A จะเป็นเซตจำกัดก็ต่อเมื่อสามารถบอกจำนวนสมาชิกที่แตกต่างกันในเซตนั้นได้ว่ามีจำนวนเท่าใด
จากความหมายของเซตจำกัดแสดงว่า เซตจำกัดคือเซตที่มีสมาชิกเท่ากับจำนวนเต็มบวกหรือศูนย์
เช่น A=\{1,2,3,4,5,6,7,8\} เป็นเซตจำกัดที่มีสมาชิก 8 สมาชิก
บทนิยาม เซตอนันต์คือเซตที่ไม่ใช่เซตจำกัด
จากนิยามคือเซตที่มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
เช่น A=\{1,2,3,4,5,\dots \} เป็นเซตจำกัดที่มีสมาชิกมากมายนับไม่ถ้วน
สับเซต
บทนิยาม กำหนดให้ A และ B เป็นเซต A เป็นสับเซตของ B ก็ต่อเมื่อสมาชิกทุกตัวของ A เป็นสมาชิกของ B
ถ้า A เป็นสับเซตของ B เขียนแทนด้วย A\subset B
ถ้า ไม่เป็นสับเซตของ B เขียนแทนด้วย A\not\subset B
ข้อสังเกต A ไม่เป็นสับเซตของ B ก็ต่อเมื่อมีสมาชิกของ A อย่างน้อยหนึ่งตัว ซึ่งไม่เป็นสมาชิก ของ B เช่น A=\{1,2,3\},B=\{1,2,3,4,5\}\therefore A\subset B
บทนิยาม ถ้า A และ B เป็นเซตใดๆ A เป็นสับเซตแท้ของ B ก็ต่อเมื่อ A\subset B และ A\neq B
เช่น A=\{1,2,3\} สับเซตแท้ของ A คือ \{1\},\{2\},\{3\},\{1,2\},\{1,3\},\{2,3\} แต่ \{1,2,3\} ไม่เป็นสับเซตแท้ของเซต A
จำนวนสับเซต ถ้า A เป็นเซตที่มีสมาชิก n สามชิกแล้ว จำนวนสับเซตของ A จะมี 2^n เซต และมีจำนวนสับเซตแท้ ของ A=2^n-1 เซต
ถ้า A=\varnothing สับเซตของ A มี 1 เซต หรือ 2^0 เซตว่างไม่มีสับเซตแท้
สรุปสมบัติที่สำคัญเกี่ยวกับสับเซต
1. varnothing \subset A เมื่อ A เป็นเซตใดๆ
2. A\subset A เมื่อ A เป็นเซตใดๆ
3. A\subset U เมื่อ U เป็นเซตใดๆ
4. ถ้า A\subset \varnothing แล้ว A=\varnothing
5. ถ้า A\subset B และ B\subset C และ A\subset C เมื่อ A,B,C เป็นเซตใดๆ
6. A\subset B และ B\subset A ก็ต่อเมื่อ A=B
7. ถ้า A และ B เป็นเซตจำกัด และ A\subset B แล้ว n(A)\leqslant n(B)
8. ถ้า A มีสมาชิก n ตัวแล้ว จำนวนสับเซตของ A จะมี 2^n สับเซต
No comments:
Post a Comment